เลขาฯ พท. เผย ยอมรับคำวินิจฉัยศาล รธน. กรณีนายกฯ บ้านพักหลวง แต่ยังเห็นต่างเล็งคุยในสภา วางหลักเรื่อง ขรก.เกษียณอยู่บ้านหลวง หวังลดความเหลื่อมล้ำ ขรก.ชั้นผู้น้อย
วันนี้ (2 ธ.ค.) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังรับฟังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญในคดีนายกฯพักบ้านหลวง ว่า พรรคเพื่อไทยในฐานะผู้ร้องได้ทำเต็มที่ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนถึงที่สุดแล้ว ส่วนข้อเท็จจริงเรื่องความปลอดภัยที่ศาลวินิจฉัย ว่า นายกฯจะต้องได้รับการดูแลความปลอดภัยเป็นพิเศษ เพราะเป็นผู้บริหารประเทศ ก็เห็นว่า นายกรัฐมนตรีคนก่อนๆ ก็อยู่บ้านพักตัวเอง และได้รับการดูแลจากรัฐเช่นเดียวกัน ไม่ได้มีมาตรการดูแลเป็นพิเศษแต่อย่างใด ซึ่งหลังจากนี้ พรรคจะกลับไปหารือกันโดยจะดูรายละเอียดของคำวินิจฉัย เพราะคำวินิจฉัยเป็นบรรทัดฐานให้องค์กรอื่นที่เป็นหน่วยงานรัฐต้องปฏิบัติตาม จึงมีข้อสังเกตที่น่าคิดว่าในอนาคตจะทำแบบนี้ได้หรือไม่ เพราะเมื่อศาลวินิจฉัยว่านายกฯไม่ได้ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญและไม่ได้กระทำการขัดจริยธรรม เราก็ยื่นร้องต่อไม่ได้
“บุคคลที่เป็นนายกฯต้องมีวุฒิภาวะ มีมาตรฐานทางจริยธรรมสูงกว่าคนอื่น วันนี้สังคมกังขาถึงการใช้น้ำไฟฟรี เพราะนายกฯเคยเป็นอดีต ผบ.ทบ. เมื่อมาดำรงตำแหน่งนายกฯ ถือเป็นข้าราชการการเมือง ซึ่งต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 184(3) ซึ่งในอนาคตหากหน่วยงานอื่นนอกจากกองทัพบกออกระเบียบภายในกันเอง ว่า ข้าราชการที่เกษียณแล้วสามารถพักอยู่บ้านหลวงได้ โดยกระทำคุณงามความดี เราคงต้องใช้งบประมาณอีกเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างบ้านรองรับข้าราชการเกษียณที่ทำคุณงามความดีหรือไม่”
อย่างไรก็ตาม ในอนาคตจะนำเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการรัฐสภา เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ เพราะเรื่องระเบียบการใช้บ้านพักของหน่วยงานราชการควรเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ ซึ่งปัญหานี้เราห่วงข้าราชการชั้นผู้น้อยที่ไม่มีบ้านอยู่ แต่ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่กลับมีบ้านหลายหลังสิ่งเหล่านี้เป็นช่องว่าง เป็นรอยต่อ เป็นความเหลื่อมล้ำ ซึ่งในอนาคตต้องมีการพูดคุยเรื่องนี้ต่อไป เพราะเรามองว่าการที่คนเกษียณไปแล้ว สามารถใช้ทรัพย์สินของรัฐได้ ต้องมีกฎหมายรองรับ แต่เมื่อคำวินิจฉัยออกมาในลักษณะนี้ก็ต้องผลักดันเรื่องความเหลื่อมล้ำความเสมอภาคต่อไป และเรื่องนี้คงนำไปอภิปรายไม่ไว้วางใจต่อไม่ได้ เพราะไม่มีประเด็นอื่นแล้ว และคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญเป็นเด็ดขาด