“บิ๊กตู่” ฟันเต็มที่พวกลอบเข้าเมือง ชี้ทำธุรกิจเสียหาย ไล่สื่ออยู่ชายแดนจะได้รู้ทหารลำบาก

นายกฯ จี้ดำเนินคดีเต็มที่พวกลักลอบมุดเข้าเมืองผิดกฎหมาย ลั่นทำธุรกิจเสียหาย ขอ ปชช.-อสม.ช่วยเป็นหูเป็นตา ติงสื่อเสนอข่าวให้เหมาะสม แนะให้ไปกินนอนชายแดนจะได้รู้ทหารลำบากแค่ไหน

วันนี้ (1 ธ.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการทบทวนมาตรการผ่อนผันกิจกรรมกิจการที่เกี่ยวข้องกับแรงงานต่างด้าวภายหลังมีการพบการแพร่ระบาดโควิด-19 ว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นทุกที ตนเคยบอกแล้วว่าเราพยายามอย่างเต็มที่ไม่ให้คนเข้าออกนอกประเทศในช่องทางที่ไม่ถูกต้อง แต่ก็ยังมีการลักลอบอยู่ สิ่งเหล่านี้ก็ต้องดูว่าเมื่อมีการลักลอบ มีการแพร่ระบาด เราสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้หรือไม่ ติดตามตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องมาได้หรือไม่ ซึ่งมันมีกระบวนการอยู่แล้ว

“อย่าลืมว่าเหตุที่เชียงราย และเชียงใหม่ ช่วงนี้เป็นช่วงไฮซีซัน และเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น เขาก็มีการตรวจสอบไป 100 กว่าคนที่เกี่ยวข้องก็ไม่มีใครติด ซึ่งหญิงคนดังกล่าวนี้ก็ทราบกันดีว่าเขาไปทำอาชีพอยู่ฝั่งโน้นแล้วกลับมา ก็มีการมาพบปะกับผู้คนอีกเยอะแยะพอสมควร และนี่คือสิ่งที่ทุกคน สังคมต้องช่วยกันดูแลว่าในชุมชนของตัวเองมีคนหน้าแปลกๆ เข้ามาหรือไม่ มาอย่างไร ก็ต้องไปสอบถามอาสาสมัคร (อสม.) ก็ไปช่วยถาม ช่วยตามว่ามาอย่างไร มีการตรวจสอบหรือเปล่า ติดโควิดหรือไม่ กรณีนี้ก็ต้องดำเนินคดีด้วยเพราะลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย แต่เราอย่าตื่นตระหนกกันจนเกินไปจนยกเลิกการจองโรงแรมกัน แล้วอย่างนี้ใครได้ประโยชน์ ใครเสียประโยชน์ อยากให้สื่อเสนอข่าวที่เหมาะสมด้วย ผมบังคับสื่อไม่ได้อยู่แล้ว จะเสนออย่างไรก็แล้วแต่ เสนอออกมาคนละเรื่องกันหมด ที่ผ่านมามีทั้งเรื่องการลักลอบข้ามแดน การติดเชื้อ การป้องกันการแพร่ระบาด การตรวจสอบ เราทำทุกอย่างแล้วขณะนี้ ก็เขาไม่ผ่านด่าน แล้วถามว่ามันกี่กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ก็ดูแลเต็มที่แล้ว บางทีคนคนเดียวหรือ 2 คน มันก็มุดเข้ามาตรงโน้นตรงนี้ ก็ฝากไปดูตามแนวชายแดนให้ผมด้วยก็แล้วกัน ลองไปอยู่ที่ชายแดน อยู่กินนอนกับทหารชายแดนสักวันดูสิ ไปอยู่กับเขา จะได้รู้ว่าเขาทำงานกันอย่างไร ไม่อย่างนั้นก็ไม่เข้าใจกันอยู่อย่างนี้”