“นิพิฏฐ์” จวก “3 นิ้ว” เลอะเทอะ เรียกร้อง “ค้านาผืนน้อยเสรี” สอนน้อง กฎหมายมีไว้ปกป้องศักดิ์ศรี และป้องกันค้ามนุษย์ เพจดังระอาหนักไล่เรียง ความเงี่ยX มันซะเลย “หมอวรงค์” ชี้ “3 นิ้ว” ไปต่อลำบาก “ทอน” ให้ท้ายส่อรุนแรง
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (29 พ.ย. 63) สาระสำคัญคือ ความไม่มีสาระ หรือ ไร้สาเลอะ ของม็อบ 3 นิ้วนั่นเอง
เริ่มจาก นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ให้ความเห็นผ่านเฟซบุ๊ก หัวข้อ “ม็อบ กับ การค้านาผืนน้อย”
โดยระบุว่า “-ผมเห็นข่าวกลุ่มผู้ชุมนุม ปราศรัยในม็อบว่า ขอให้ยกเลิก พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี โดยขอให้มีการค้าประเวณีโดยเสรี เธอพูดทำนองว่า เธอมีนาผืนน้อย เป็นสิทธิของเธอจะทำอะไรก็ได้ จะมายึดนาผืนน้อยของเธอไปทำไม
-เรื่องการค้าประเวณีมันมีตำนานคู่โลกมานานแล้ว นักปรัชญาบางส่วน เช่น ไดโอจีนีส (ลองไปหาอ่านดู) ก็เคยสนับสนุนเรื่องนี้ แต่เมื่อโลกก้าวหน้าและซับซ้อนมากขึ้น เขาเห็นว่า การค้าประเวณีเป็นการกดขี่ทางเพศ เป็นการทำลายศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ เกือบทั่วโลกจึงเห็นว่า การค้า “นาผืนน้อย” เป็นความผิด ไม่ยอมให้มีการ “ค้า” นาผืนน้อยอีกต่อไป มีบางประเทศ (แต่น้อยมาก) ที่ยอมให้มีการค้าได้ แต่เขาก็วางกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดมาก หรือแม้จะหันไปดูหลักธรรมในศาสนาทุกศาสนาก็ห้ามการค้าประเวณีทั้งสิ้น
-การ “ค้านาผืนน้อย” กับการใช้นาผืนน้อยโดยอิสระโดยไม่มีการค้า มันต่างกันนะหนู ถ้าหนูอายุเกิน 20 ปีแล้ว หนูจะใช้นาผืนน้อยของหนูทำนาปรัง ทำนาปี นาน้ำตม หรือทำอะไรก็ไม่ผิดกฎหมายหรอก ขอย้ำว่า ที่กฎหมายห้ามเพราะเป็นเรื่องศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ เขาป้องกันศักดิ์ศรีของหนูนั่นแหละ และรวมไปถึงเขาป้องกันการค้ามนุษย์ ซึ่งในโลกประชาธิปไตยเขาถือเป็นความผิดอย่างรุนแรง หนูเรียกร้องประชาธิปไตยจนเลยเถิดมาขอค้านาผืนน้อย เลอะเทอะหมดแล้ว
-นี่ผมหวั่นๆ อยู่ว่า พรุ่งนี้ จะมีมนุษย์ผู้ชายขึ้นเวที “กลุ่มราษฎร” อ้างว่า มี “ควาย” อยู่ตัวหนึ่ง อยาก “ขายควายโดยเสรี” ถ้าม็อบขายนา กับ ม็อบขายควาย มาเจอกันเมื่อไหร่ ตำรวจต้องเตรียมรถฉีดน้ำเพิ่มอีก 2 คันล่ะ ฉีดไล่เจ้าของควาย กับ ฉีดไล่เจ้าของนา ม็อบอะไร (วะ) เลอะเทอะใหญ่แล้ว!!”
ขณะเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก The METTAD โพสต์ข้อความถึงกระแสข่าวที่เกิดขึ้นในม็อบ ว่า
แกนนำก็เงี่ยx
หัวหน้าการ์ดก็เงี่ยx
การ์ดอาชีวะก็เงี่ยx
น้องๆ นักเรียนก็เงี่ยx
ใครๆ ก็เงี่ยx
เสรีภาพในการนัด...
วาดรูประบายสีรูป...
ทำแท้งเสรี ขายตัวถูกกฎหมาย
ก็มาซะแบบนี้ ทั้งตั้งวงกินเหล้ากินเบียร์
เปิดเพลงเต้นยั่วๆ จะไม่ให้เงี่ยxได้อย่างไร
จนมีผู้เข้ามาแสดงความเห็นว่า ....(ลงตีพิมพ์ไม่ได้)
(พร้อมโพสต์ภาพประกอบที่เห็นแล้วใช่เลย)
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรอง ผอ.สำนักข่าวกรองฯ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หัวข้อ “น่ารำคาญ”
เนื้อหาระบุว่า “ม็อบ มม. ชุมนุมปิดถนนรายวัน ร้องเล่นเต้นรำ ไร้สาระ นี่หรือคนรุ่นใหม่ นี่หรืออนาคตของประเทศ ที่จะเข้ามาดูแลประเทศแทนคนรุ่นเก่า
ประเด็นที่ต้องทบทวน การปิดถนน ปิดสี่แยกต่างๆ จะอ้างเหตุผลอะไรก็ฟังไม่ขึ้น จะซ้อมต่อต้านทหาร กรณีเกิดการยึดอำนาจ ไม่ต้องซ้อม คนเดือดร้อน น่ารำคาญ
ลองสอบถามคนกรุงดูได้ว่า เห็นด้วยกับการปิดถนนมั้ย กล้าทำโพลมั้ย หรือยอมรับผลโพลมั้ย
วิธีการปิดถนนอย่างนี้ ทำกันมาหมดแล้ว ไม่มีทางชนะหรอก คนเบื่อหน่าย ประชาธิปไตย เสรีภาพ ไม่ใช่อยากทำอะไรก็ได้ อยากปิดถนนเมื่อไรก็ได้ใครจะทำไม การจราจรติดขัดรถติดเป็นเรื่องของคนอื่นต้องรับผิดชอบ ม็อบไม่เกี่ยว นี่หรือความรับผิดชอบต่อสังคมและประเทศชาติ
ขอบคุณข้อมูล เฟซบุ๊ก นันทิวัฒน์ สามารถ”
ด้าน เฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom ของ “หมอวรงค์” นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานกลุ่มไทยภักดี โพสต์หัวข้อ “#ม็อบไปต่อลำบาก”
เนื้อหาระบุว่า “ผมคิดว่านับวันม็อบจะยิ่งเข้ารกเข้าพง ไม่มีเหตุไม่มีผล สร้างความลำบากให้ประชาชน เป็นผู้ยั่วยุสถานการณ์เพื่อให้เกิดความรุนแรง
ยิ่ง นายธนาธร (จึงรุ่งเรืองกิจ) มาให้ท้าย พูดตรงข้ามกับความเป็นจริง พยายามบิดเบือนว่า เป็นการชุมนุมอย่างสันติ ที่สำคัญตนเองนั่นแหละ เป็นผู้ปลุกปั่นให้ประชาชนแตกแยก ฝ่ายประชาชนส่วนใหญ่ ต้องอดทนอดกลั้นต่อพฤติกรรม หยาบและถ่อย
การชุมนุมเรียกร้อง 3 ข้อ ไม่มีเหตุผล โดยเฉพาะข้อเรียกร้องที่เกี่ยวข้องสถาบันพระมหากษัตริย์ สังคมก็ตื่นเรียนรู้ความจริงมากขึ้น ส่วนผู้ชุมนุมก็ปลูกฝังข้อมูลผิดๆ เหมือนท่องบทกันมา จนไม่เป็นที่ยอมรับของสังคม
ขณะนี้ม็อบไปต่อลำบาก มวลชนถอยห่าง สิ่งที่ต้องจับตาคือ การเคลื่อนไหวจะยิ่งยั่วยุและท้าทายมากขึ้น ล่าสุด จะไปบุกกรมทหารราบที่ 1 (ต่อมาเปลี่ยนเป็นราบ 11 มหาดเล็กรักษาพระองค์) อ้างปลดอาวุธศักดินา คงต้องการให้เกิดความรุนแรง และหวังแห่ศพลูกหลานประชาชน แต่คนไทยเขารู้ทันครับ”
แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจ และเริ่มมีคนสุดทนให้เห็นแล้ว ก็คือ การสร้างความรำคาญใจ และเดือดร้อนในเรื่องของการจราจรในกรุงเทพฯ จากการชุมนุมปิดถนนแยกใหญ่ๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเส้นทางหลักของการเดินทาง และม็อบ 3 นิ้ว ก็ไม่เคยเกรงใจ ไม่สนใจ อ้างท่าเดียวว่า เรียกร้องประชาธิปไตย ม็อบอื่นก็เคยปิดถนน อะไรต่อมิอะไรไปเรื่อย ทั้งที่หลายม็อบที่ผ่านมา เลือกชุมนุมในจุดที่ประชาชนไม่เดือดร้อน หรือ ต้องหาแนวร่วมจากประชาชน ไม่ใช่สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน
เร็วๆ นี้ มีคลิปกรณีหญิงวัยกลางคนเข้าไปต่อว่ากลุ่มผู้ชุมนุม กรณีปิดถนน จนหวิดปะทะด้วยความรุนแรง ถือเป็นตัวอย่างได้ดีที่สุด
อีกอย่าง ม็อบที่ดูเหมือนปล่อยไก่ความกลวงออกมาทุกวัน ไม่มีสาระอะไร นอกจากจาบจ้วงสถาบันด้วยถ้อยคำหยาบคาย เพื่อสร้างความสะใจในม็อบ และยั่วยุ โดยเคลื่อนไปในสถานที่ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสถาบัน ยังมีพวกขึ้นเวทีเรียกร้องด้วยประเด็นล่อแหลม ส่อเสียดทางเพศอย่างน่าตาเฉย อย่างที่หลายคนโพสต์ประจานไปแล้ว
นี่คือ อีกหนึ่งความเสื่อมที่สังคมไทยรับไม่ได้กับรูปแบบการชุมนุมทางการเมืองของคนรุ่นใหม่ มันทำให้เห็นว่า แม้มีข้อเรียกร้องที่ใหญ่โตระดับพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน แต่ก็ถูกเปิดโปงออกมาแล้ว ว่าไม่ใช่เกิดจากความคิดของพวกเขา หากแต่ถูกป้อนข้อมูลให้ของ “อีแอบ” ที่อยู่เบื้องหลัง
ส่วนตัวของพวกเขาที่แสดงออก ก็เห็นได้ชัดว่า เล่นกันจนเลยเถิด จนน่ากลัวว่า จะนำไปสู่ความรุนแรงได้สักวันหนึ่ง ถ้าไม่มีการปรับเปลี่ยน พฤติกรรม และรับผิดชอบต่อสังคมบ้าง
เหนืออื่นใด ยังไม่สายเกินไปที่จะถอนตัวจากการรับบท “ฮีโร่” ของพวกอีแอบ ที่ไม่มีแม้แต่ความเป็นลูกผู้ชาย ที่จะรับผิดชอบต่อความต้องการของตัวเอง คนพวกนี้หรือ ที่จะยอมตายและเดือดร้อนแทน ลองคิดดูให้ดี !