“อนุทิน” ระบุกรณีลดกักตัวต้องว่ากันด้วยเหตุและผล ป้อง ศบค.ชุดเล็กเสนอเพราะมั่นใจประสิทธิภาพกรมควบคุมโรค ไม่มีซูเปอร์สเปรดเดอร์ ชี้น่าชมเชย
วันนี้ (17 พ.ย.) เมื่อเวลา 13.15 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีเตรียมที่ ศบค.ชุดเล็ก ที่มี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เป็นประธาน เตรียมเสนอในที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ในวันที่18 พ.ย.นี้ โดยให้ชะลอเรื่องการลดจำนวนวันเหลือ 10 วัน ตามที่มีข้อเสนอ และให้คงระยะเวลากักตัวไว้ที่ 14 วันก่อนว่า เดี๋ยวมาหารือกันเพื่อให้ลงตัวให้ได้ ทางการแพทย์ยืนยันระยะเวลา 10 วัน กับ 14 วัน ไม่แตกต่างกันมากในการควบคุมโรค แต่ไม่ได้หมายความว่าตัดเวลา 4 วันหายไป แต่อาจจะอยู่ภายใต้การควบคุมให้ติดตามตัวได้ตลอด เราต้องพยายามลดช่องว่างลงมาจากผู้ร้องและผู้ถูกกักตัวก็ร้องเรียนเข้ามาว่าออกไปไหนไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่วันที่ 18 พ.ย.นี้จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าพิจารณาด้วยหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า จะมีฝ่ายที่เกี่ยวข้องดูแลอยู่แล้ว เรื่องใดที่สรุปแล้วก็นำเข้ามาพิจารณาก็ต้องรับฟัง เพราะอาจจะมีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย และสรุปกันในที่ประชุม ไม่มีปัญหา ที่ผ่านมาก็ไม่ถึงกลับต้องโหวต ทุกอย่างต้องว่ากันด้วยเหตุและผล
เมื่อถามว่า ศบค.ชุดเล็ก ที่เห็นว่าควรชะลอลดเวลากักตัวไว้ อาจจะไม่นำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุม นายอนุทินกล่าวว่า “ไม่เห็นวาระการประชุม หมอและกรมควบคุมโรคก็ยอม ถ้าเขาไม่คิดถึงความสะดวกของประชาชน และเขาว่า ไม่ต้องเสนออะไรเลยก็ได้ ไม่ต้องถูกใครดุใครว่า ที่เสนอให้ลดเวลากักตัวเพราะมั่นใจในประสิทธิภาพของเขา โดยเฉพาะกรมควบคุมโรคสามารถคัดแยกคัดกรองด้วยประสบการณ์ ไม่ได้ทำแค่ตอนที่มีโควิด, ไข้หวัดนก, โรคซาร์ส, อีโบลา ถึงมั่นใจว่าทำอย่างนี้แล้วความปลอดภัยจะเกิดขึ้น หากจะหลุดรอดไปก็คงอยู่แค่ส่วนน้อย แต่ยังมีระบบติดตามการรักษา และรับมือไม่ให้กระจายเป็นวงกว้าง ไม่มีซูเปอร์สเปรดเดอร์ เขามั่นใจอย่างนี้จึงเสนอมาซึ่งเป็นสิ่งที่น่าชมเชยที่กล้าเสนอลดวัน”