“องอาจ” ชี้ยื่นตีความแก้ไขรัฐธรรมนูญ สร้างความไม่ไว้วางใจเพิ่มมากขึ้น มั่นใจร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ ปชป.ลงนาม ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ
วันนี้ (11 พ.ย.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธาน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการที่ ส.ว.48 คน และ ส.ส.25 คน ร่วมลงชื่อส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตีความร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 3 ฉบับว่า เป็นสิทธิของสมาชิกรัฐสภาที่จะดำเนินการเมื่อเห็นว่าอาจมีเรื่องที่ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ แต่การดำเนินการเรื่องนี้ในช่วงเวลาที่บ้านเมืองกำลังมีปัญหาความขัดแย้งของคนที่เห็นต่างกันในสังคมจนกำลังมีความพยายามที่จะหากลไกต่างๆ ที่เหมาะสมมาช่วยกันหาทางออกให้ประเทศ ด้วยการให้มีคณะกรรมการสมานฉันท์ หรือจะมีชื่ออะไรก็ตาม เป็นเวทีให้ฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้พูดคุยปรึกษาหารือสานเสวนาเพื่อหาทางออกร่วมกันอาจมีอุปสรรคมากขึ้น เพราะเป็นการเพิ่มบรรยากาศของความไม่ไว้วางใจกันมากขึ้น ทั้งๆ ที่ขณะนี้เราควรช่วยกันหาทางสร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกันเพื่อผลักดันให้ปัญหาต่างๆ ทุเลาเบาบางลง
ในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็เคยมีประเด็นให้วิพากษ์วิจารณ์มาแล้วครั้งหนึ่งที่อยู่ดีๆ กำลังจะลงมติเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญก็มีการเสนอให้ตั้งกรรมาธิการพิจารณาก่อนรับหลักการ ทำให้การลงมติต้องเลื่อนออกมาอีกเกือบ 2 เดือน การยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญครั้งนี้ก็อาจทำให้เวลาการแก้ไขรัฐธรรมนูญถูกลากยาวออกไปอีกซึ่งเป็นประเด็นที่ก่อให้เกิดความไม่ไว้วางใจ ทำลายบรรยากาศของการหาทางออกให้ประเทศ
ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์มั่นใจในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ ส.ส.ของพรรคร่วมลงชื่อกับ ส.ส.ร่วมรัฐบาลทุกพรรคว่าเป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการทางกฎหมาย ไม่มีอะไรขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด พรรคประชาธิปัตย์ตั้งใจอยากเห็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญเกิดขึ้นได้จริงโดยไม่ควรมีอุปสรรคใดๆ มาขัดขวางหรือถ่วงเวลา เพื่อจะได้มีรัฐธรรมนูญที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและส่วนรวม และเป็นอีกหนึ่งกลไกของรัฐสภาที่จะช่วยนำพาหาทางออกให้ประเทศได้ จึงอยากเรียกร้องให้ทุกฝ่ายสร้างบรรยากาศของความไว้วางใจใช้การแก้ไขรัฐธรรมนูญตามวิถีทางรัฐสภาเป็นอีกหนึ่งกลไกในการหาทางออกให้ประเทศร่วมกัน น่าจะเกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมในที่สุด