xs
xsm
sm
md
lg

ครม.ผ่านกรอบเจรจา ตั้งศูนย์อาเซียนด้านภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและโรคอุบัติใหม่

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รองโฆษกรัฐบาล เผย ครม.อนุมัติกรอบการเจรจาและข้อเสนอของไทยเพื่อจัดตั้งศูนย์อาเซียนด้านภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข และโรคอุบัติใหม่ในประเทศไทย 
วันนี้ (2 พ.ย.) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติกรอบการเจรจาและข้อเสนอของไทยเพื่อจัดตั้งศูนย์อาเซียนด้านภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและโรคอุบัติใหม่ในประเทศไทย(ASEAN Center for Public Health Emergencies and Emerging Diseases -APHEED) เพื่อสร้างความมั่นคงปลอดภัยจากภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและโรคอุบัติใหม่ให้กับประชาคมอาเซียนโดยเน้นขีดความสามารถ พร้อมรับ ตรวจจับ และตอบโต้ โดยเมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2563 กระทรวงสาธารณสุขของไทยได้ส่งชุดคำตอบสำหรับการแสดงความจำนงที่ประเทศไทยมีความพร้อมต่อการเป็นเจ้าภาพจัดตั้ง APHEED ไปที่สำนักเลขาธิการอาเซียนแผนกสุขภาพ โดยระบุคำตอบถึงความพร้อมในการเตรียมสถานที่ตั้งของAPHEED โดยสามารถจัดตั้งได้ที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข 

สำหรับงบประมาณพื้นฐานในการดำเนินงานของ APHEED จะอยู่ที่ปีละประมาณ 12-15 ล้านเหรียญสหรัฐ และหากให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดจะใช้งบประมาณ 28-33 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี โดยใน 5 ปีแรกของการจัดตั้ง APHEED จะต้องมีการตั้งงบลงทุนประมาณ 14-17 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี สำหรับการก่อสร้างตึก ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นต้น โดยควรจะมีบุคลากรประมาณ 70-80 คนในระยะ 3 ปีแรก และภาพรวมควรจะมีบุคลากรทำงานใน APHEED ประมาณ 130-170 คน อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า งบประมาณพื้นฐานในการดำเนินงานของ APHEED ซึ่งในปีแรกคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณ 20 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนนี้จะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่นและจากกลไกการดำเนินงานของสำนักเลขาธิการอาเซียน แต่ก็ยังไม่ทราบจำนวนสนับสนุนที่แน่ชัด ดังนั้น ส่วนที่เหลือจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลของประเทศที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพ ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงการต่างประเทศจึงได้จัดทำข้อเสนอกรอบวงเงินเพื่อการเจรจาต่อรองไม่เกินร้อยละ 20 ของงบประมาณพื้นฐานในการดำเนินงานของ APHEED ต่อปี และต้องไม่เกิน 10 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี 

ทั้งนี้ หากประเทศไทยได้รับการคัดเลือกให้จัดตั้ง APHEED จะได้มีส่วนร่วมสำคัญในการพิจารณากำหนดกรอบการดำเนินการของ APHEED นำไปสู่การพัฒนาความร่วมมือทั้งด้านวิชาการและการดำเนินการป้องกันโรคร่วมกันของประเทศสมาชิกอาเซียนและความร่วมมือจากประเทศอื่น ทำให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศไทยดังนี้ คือ ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านการแพทย์และสาธารณสุขของไทยที่ให้การสนับสนุนในการคัดกรองและการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค การตรวจรักษา และการควบคุมโรคระบาดในกลุ่มแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย นอกจากนี้ยังสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน นักท่องเที่ยว และผู้ที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ในความเข้มแข็งของระบบสาธารณสุขของไทย และประเทศสมาชิกอาเซียน ซึ่งจะส่งผลทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อการค้า การลงทุนระหว่างกัน รวมถึงการส่งเสริมด้านเศรษฐกิจร่วมกันของอาเซียนและจากประเทศในภูมิภาคอื่นทั่วโลก รวมทั้งยังช่วยพัฒนาระบบสาธารณสุขของไทยให้มีความยั่งยืนตามเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้านสาธารณสุข


กำลังโหลดความคิดเห็น