“ประยุทธ์” เผยลงพื้นที่ภูเก็ตสร้างความเชื่อมั่นมาตรการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว ย้ำฟื้น ศก.ควบคู่มาตรการการเงินการคลังขับเคลื่อนธุรกิจ เพื่อรักษาสภาพคล่อง เผยอนุมัติแผนงานใช้งบฟื้นฟูจำนวนหนึ่ง พร้อมรับข้อเสนอไว้พิจารณาทั้งหมด
วันนี้ (3 พ.ย.) เมื่อเวลา 13.45 น. ที่โรงแรมสแปลช บีช รีสอร์ท ไม้ขาว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 3/2563 ว่าวัตถุประสงค์ในการมาคือการสร้างความเชื่อมั่น ความพร้อมของมาตรการต่างๆทุกมาตรการ และหากเริ่มเปิดประเทศจะทยอยดำเนินการอย่างไร ในระยะ ที่ 1, 2 และ 3 เพื่อให้มีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเข้ามาเพิ่มมากขึ้น โดยมีมาตรการคัดกรองที่เหมาะสมและเข้มงวด ขณะเดียวกัน เพื่อจะบูตเศรษฐกิจที่มีศักยภาพอยู่ให้สามารถเพิ่มรายได้ให้แก่ประชาชน โดยเฉพาะเศรษฐกิจฐานรากให้มากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันมีมาตรการทางการเงินการคลังเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจต่างๆ ให้เป็นไปได้ด้วยดีในช่วงนี้เพื่อรักษาสภาพคล่อง ให้สามารถจ้างแรงงานและลูกจ้างได้ต่อไป โดยสิ่งที่ได้รับทราบและรับฟังมาตลอด 2 วันนี้ คือ เรื่องปัญหาข้อขัดข้องและข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการในภูเก็ต และจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามันที่มีอยู่หลายจังหวัดด้วยกัน ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดมาร่วมประชุมด้วย
นายกฯ กล่าวว่า สำหรับข้อเสนอต่างๆ มีทั้งเรื่องการเยียวยาฟื้นฟู การเตรียมการเรื่องการท่องเที่ยว ทั้งในวันนี้และในอนาคตต้องมีการพัฒนาคุณภาพ ของการท่องเที่ยวให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ภูเก็ตกับสมุยได้อาศัยรายได้จากการท่องเที่ยวและบริการถึง 90% ส่วนอีก 10% เป็นอาชีพอื่น เพราะฉะนั้นเราต้องเตรียมความพร้อมและทั้งกฎหมายด้วย ว่าสถานการณ์เช่นนี้อาจจะเกิดขึ้นได้อีกในวันข้างหน้า หลังจากโควิด-19 ดีขึ้นแล้ว เพราะโรคภัยอุบัติใหม่มันเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ช่วงที่ผ่านมาหลายๆ ปีก็เกิดขึ้นครั้งหนึ่ง เพราะฉะนั้นผลกระทบครั้งนี้คงจะเป็นบทเรียนให้กับรัฐบาลทุกรัฐบาล และให้กับประชาคมต่างๆ ทุกภูมิภาคได้เตรียมการเหล่านี้ ฉะนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือการปรับรูปแบบหรือโครงสร้างของธุรกิจขึ้นมาใหม่ เศรษฐกิจขึ้นมาใหม่ ให้ตรงตามศักยภาพของพื้นที่ของกลุ่มจังหวัด ของจังหวัด ที่บางจังหวัดอาจเน้นเรื่องการเกษตร บางจังหวัดอาจเน้นในเรื่องการท่องเที่ยว บางจังหวัดเน้นเรื่องอุตสาหกรรมเหล่านี้
นายกฯ กล่าวอีกว่า สิ่งใดที่เสนอมาไม่ว่าจะเรื่องเรื่องการเยียวยา การฟื้นฟู เรื่องท่องเที่ยว เรื่องเกษตร การพัฒนาคุณภาพชีวิต การพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้เกิดประโยชน์สูงสุดในเรื่องโครงสร้างพื้นฐานที่เสนอมา รัฐบาลรับไว้พิจารณาทั้งหมด เราคงยังตอบตรงนี้ไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องที่มีรายละเอียดมากมายพอสมควร อะไรที่ทำได้เราก็จะทำ อันไหนที่มีปัญหาเราต้องศึกษา ต้องไปดูกลไกของการทำงาน เรื่องกฎหมายต่างๆที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจะกลับไปทุกเรื่อง เรื่องใดทำได้เลยก็จะดำเนินการให้ได้โดยเร็ว เรื่องใดที่ต้องไปหารือเพิ่มเติม โดยการรวบรวมข้อมูลต่างๆ โดยสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ไปพิจารณาถึงเรื่องความเหมาะสม และที่สำคัญต้องไปพิจารณาเรื่องงบประมาณในการใช้จ่ายในเรื่องเหล่านี้เป็นจำนวนมาก เพราะเส้นทางเดียวที่ขอขึ้นมาใช้มูลค่า 3 หมื่นกว่าล้านบาท และยังมีการทำอุโมงค์อะไรอีกเยอะแยะไปหมด ส่วนต่างๆเหล่านี้ต้องไปเข้ากระบวนการศึกษาจากคณะกรรมการต่างๆ คิดในสิ่งที่จะได้การตอบรับกลับมาจากประชาชนและประเทศชาติ เพราะเราใช้ภาษีจากประชาชนมาพัฒนาทั้งสิ้น และมีหลายจังหวัดที่มีศักยภาพในการท่องเที่ยวเช่นเดียวกัน แบบนี้หรืออาจจะน้อยกว่านี้ เขาก็ต้องการเหมือนกัน ฉะนั้นเราทำอะไรก็ตามต้องทั่วถึง ทำให้เท่าเทียม
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้ได้มีการอนุมัติแผนงานโครงการในเรื่องการใช้งบฟื้นฟูไปจำนวนหนึ่ง ขณะนี้เราใช้งบประมาณการฟื้นฟูลงไปครบทุกจังหวัดแล้ว ต่อไปก็จะลงไปถึงพื้นที่ข้างล่าง ในระดับอำเภอ ตำบล เป็นโครงการที่จะมีมูลค่าขึ้นในการพยุงเศรษฐกิจของประชาชน โดยเฉพาะเศรษฐกิจระดับฐานรากให้มากขึ้น บางโครงการที่เสนอขึ้นมา บางครั้งก็อนุมัติไม่ได้เพราะไม่ถูกต้องตามหลักการ ก็ให้ส่งย้อนกลับไปให้ทางพื้นที่ ทางจังหวัดได้ทบทวนขึ้นมา เพื่อให้เราสามารถอนุมัติงบประมาณได้อย่างถูกต้อง นี่เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องทำให้เกิดความทั่วถึง เป็นธรรมเท่าเทียมตามศักยภาพที่มีอยู่ หลายจังหวัดไม่ตรงกัน บางจังหวัดในเรื่องเศรษฐกิจ บางจังหวัดในเรื่องการท่องเที่ยว มันไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นเราต้องทำให้ดีที่สุด
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวด้วยว่า ที่สำคัญอีกสิ่งหนึ่งคือมาตรการทางด้านการเงินการคลัง เรื่องภาษี ต่อเวลาอะไรต่างๆ เราต้องทยอยดำเนินการให้ บางอย่างต้องคำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับรายได้ของรัฐ เพราะจำเป็นต้องนำเงินเหล่านั้นมาพัฒนาประเทศไทยเหมือนกัน ฉะนั้นงบประมาณในการแก้ปัญหาเหล่านี้เป็นงบประมาณทั้งรายจ่ายประจำปี งบฟื้นฟู ซึ่งงบประมาณรายจ่ายประจำปีถ้าเก็บภาษีไม่ได้มาก ลดไปเรื่อยๆ รายได้ลดลงแน่นอน มันก็ทำให้โครงการอาจมีความล่าช้า แต่รัฐบาลจะต้องหาวิถีทางในการที่จะดำเนินการได้ในสิ่งที่เร่งด่วน