“ศรีสุวรรณ” จี้ รมว.ศึกษาฯ เอาผิด ผอ.ร.ร.พรตพิทยพยัต ไม่ลงโทษนักเรียนตามกฎหมายกรณีล้อเรียนเสียดสีในหลวง ชี้เป็นความผิดร้ายแรง ไม่เหมาะสมกับสภาพนักเรียน ผิดต่อกฎกระทรวง ชี้ต้องสั่ง “ทำทัณฑ์บน” และทำกิจกรรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตามระเบียบของโรงเรียน
วันนี้ (30 ต.ค.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีกลุ่มนักเรียนของโรงเรียนพรตพิทยพยัต เขตลาดกระบัง กทม. ได้ร่วมกันแสดงพฤติกรรมล้อเรียนเสียดสีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อันเป็นที่เคารพรักยิ่งของปวงชนชาวไทย โดยถ่ายเป็นคลิปวิดีโอแล้วนำไปเผยแพร่ในโซเชียลมีเดียเป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไป เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันของสังคมไทยสุดคณานับแล้วนั้น พฤติการณ์และการกระทำของกลุ่มนักเรียนดังกล่าว ผู้อำนวยการโรงเรียนพรตพิทยพยัตได้รับทราบปัญหาแล้ว และต่อมาได้ออกประกาศแจ้งให้สาธารณะทราบว่าทางโรงเรียนได้ดำเนินการเชิญผู้ปกครองนักเรียน และนักเรียน รับทราบปัญหาและร่วมกันดำเนินการแก้ไขปัญหา โดยผู้ปกครองนักเรียนและนักเรียนได้ยอมรับผิดและได้สำนึกในการกระทำครั้งนี้แล้ว สรุปสุดท้ายได้แจ้งว่าทางโรงเรียนต้องขออภัยที่ทำให้เกิดความเสียหายและจะกำชับให้นักเรียนประพฤติปฏิบัติตนให้อยู่ในระเบียบวินัยของโรงเรียนต่อไป การประกาศดังกล่าวชี้ว่าเป็นการกระทำความผิดที่ไม่ร้ายแรง แค่การว่ากล่าวตักเตือนเท่านั้น แต่ทว่าพฤติการณ์และการกระทำของกลุ่มนักเรียนดังกล่าวเป็นความผิดที่ร้ายแรง ชี้ได้ชัดเจนว่าประพฤติตนไม่เหมาะสมกับสภาพนักเรียน ตามกฎกระทรวงว่าด้วยความประพฤตินักเรียนและนักศึกษา หรือกรณีทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงและเกียรติศักดิ์ของสถานศึกษา หรือฝ่าฝืนระเบียบของสถานศึกษา จากการประกาศดังกล่าวมิได้บ่งชี้ว่าทางผู้อำนวยการโรงเรียนพรตพิทยพยัตได้สั่งลงโทษนักเรียนกลุ่มดังกล่าว ตามกฎกระทรวงกำหนดความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2562 ประกอบระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการลงโทษนักเรียน หรือนักศึกษา พ.ศ. 2548 อย่างไร พฤติการณ์และการกระทำของนักเรียนกลุ่มดังกล่าวเข้าข่ายความผิดในข้อ 1(6) ของกฎกระทรวงอังกล่าวที่กำหนดห้ามกระทำการใดๆ อันน่าจะก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยหรือขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือรวมกลุ่มหรือมั่วสุม เพื่อกระทำการดังกล่าว ซึ่งโทษที่เหมาะสมจะต้องสั่ง “ทำทัณฑ์บน” และต้องสั่งให้ทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตามระเบียบของโรงเรียนเท่านั้น เพื่อมิให้กลุ่มนักเรียนดังกล่าวกล้ากระทำความผิดหรือเป็นแบบอย่างของพฤติกรรมการเลียนแบบที่ไม่เหมาะสมต่อไป
การที่ ผอ.โรงเรียนดังกล่าวมิได้ลงโทษนักเรียนกลุ่มดังกล่าวให้เป็นไปตามครรลองที่กฎหมายกำหนด อาจถือได้ว่าเป็นการให้ท้ายเด็กนักเรียนก็เป็นไปได้ ด้วยเหตุดังกล่าวสมาคมฯ จึงนำความดังกล่าวแจ้งร้องเรียนไปยัง รมว.ศึกษาธิการ เพื่อขอให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน ผอ.โรงเรียนพรตพิทยพยัต เพื่อเอาผิดตามกฎของกระทรวงศึกษาธิการต่อไป หรือสั่งย้าย ผอ.โรงเรียนดังกล่าวมาประจำที่กระทรวงฯ ต่อไป