หัวหน้าก้าวไกล รับผิดหวังคำวินิจฉัยตัดสิทธิ์ลูกพรรคปมถือครองหุ้นสื่อ แต่ไม่เกินคาด เหตุ “ธนาธร” ก็โดน ชู “ธัญญ์วาริน” นักสู้เพื่อความหลากหลายทางเพศ ยันพาอุดมการณ์เดินต่อ เจ้าตัวลั่นไม่ได้เป็น ส.ส.ก็จะทำเหมือนเดิม ด้าน “ชัยธวัช” ถามเจตนารมณ์กฎหมายคืออะไร
วันนี้ (28 ต.ค.) ที่อาคารรัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมนายธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ ส.ส.พรรคได้ร่วมกันแถลงถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ให้ นายธัญญ์วาริน พ้นสมาชิกภาพการเป็น ส.ส. หลังพบยังถือครองหุ้นสื่อว่า ถึงแม้ว่าจะผิดหวังกับคำวินิจฉัย แต่ไม่เกินความคาดหมาย เพราะที่ผ่านมากรณีนี้นายภูเบศวร์ เห็นหลอด ผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ จ.สกลนคร และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ก็โดนตัดสิทธิ
หัวหน้าพรรคก้าวไกลกล่าวว่า ตนภูมิใจและเป็นเกียรติที่ได้ทำงานร่วมกับนายธัญญ์วาริน ผู้เสียสละเพื่อต่อสู้ทำลายทัศนคติและลบกำแพงในสังคม เป็นนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน ความเท่าเทียม และความหลากหลายทางเพศ สร้างวัฒนธรรมใหม่และนำพาสังคมไทยไปข้างหน้า รวมทั้งยังสร้างประวัติศาสตร์เป็น ส.ส.เพศที่มีความหลากหลายคนแรกได้สำเร็จ พวกเราจะนำพาอุดมการณ์ของนายธัญญ์วาริน เดินทางกันต่อไป
ด้านนายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรค กล่าวว่า กรณีถือครองหุ้นสื่อที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตัดสิทธิล้วนแล้วแต่เป็นสมาชิกของพรรคอนาคตใหม่ทั้งสิ้น นำไปสู่การตั้งคำถามว่าเจตนารมณ์ของกฎหมายอันนี้คืออะไรกันแน่ ซึ่งกรณีของนายธัญญ์วารินเป็นการรับจ้างผลิต ประสานงาน ผลิตภาพยนตร์ ไม่ได้มีผลในการใช้ในเชิงแทรกแซงหรือมีผลทางการเมือง
ขณะที่นายธัญญ์วารินกล่าวว่า การที่ทำหน้าที่ที่ผ่านมาสะท้อนในสิ่งที่คิด สิ่งที่เชื่อเพื่อต่อสู้สิทธิมนุษยชน ความเท่าเทียม และความหลากหลายทางเพศ เป็นสิ่งที่ทำตั้งแต่ก่อนเป็น ส.ส. ดังนั้น ต่อให้ไม่ได้เป็นผู้แทนราษฎรแล้วก็จะทำเหมือนเดิมเพราะนั่นคือการทำในสิ่งที่ถูกต้องและตนเองไม่ได้ยึดติดในตำแหน่ง ตนไม่ได้ไปไหนและจะขอเป็นผู้แทนประชาชนตลอดชีวิต
อย่างไรก็ตาม ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยให้นายธัญญ์วารินมีความผิดเพียงคนเดียว จาก ส.ส.ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านที่ถูกวินิจฉัยรวม 64 ราย