“สุภรณ์” กระตุกจิตสำนึก “ธนาธร” อดีตโกหก-ปัจจุบันก็ไม่เปลี่ยน เอาดีใส่ตัวเอาให้ชั่วคนอื่น ทั้งๆ ที่ม็อบทำผิด กม. ยังหน้าด้านบอกชุมนุมเพื่อสิทธิเสรีภาพตามระบอบ ปชต. แถมยังยุยงให้คนชุมนุมทั่วประเทศอีก ชี้เข้าข่ายความผิดตาม ม.116
วันนี้ (15 ต.ค.) นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำคณะก้าวหน้า ออกคลิปเป็นแถลงการณ์ประกาศยืนข้างม็อบและเรียกร้องให้นายกฯ ยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน พร้อมกับให้ปล่อยแกนนำที่ถูกจับกุมตัว โดยอ้างว่าม็อบไม่มีความผิดว่า นายธนาธรไม่เคยเปลี่ยน เคยโกหกอย่างไรก็เหมือนเดิม ครั้งที่นายธนาธรไม่โอนหุ้นแล้วไปสมัคร ส.ส. ต่อมามีการจัดฉากโอนหุ้นในภายหลังเพื่อตบตา กกต. และศาลรัฐธรรมนูญ แต่สิ่งที่นายธนาธรทำไม่ประสบความสำเร็จเพราะจำนนด้วยหลักฐาน
“ครั้งนี้นายธนาธรก็หลบๆ ซ่อนๆ ทำตัวเป็นอีแอบอยู่หลังม็อบ ไปโผล่ที่สนามหลวง ไปโผล่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อประโยชน์ตัวเอง แล้วก็ไปโผล่ที่ข้างทำเนียบฯ เมื่อคืนนี้ก็เพื่อประโยชน์ตัวเอง จากนั้นกลับบ้านอาบน้ำเปิดแอร์นอนสบายใจ ปล่อยให้ม็อบนอนลำบากบนท้องถนนทั้งคืน พอเจ้าหน้าที่ทำการเคลียร์พื้นที่ จนทุกอย่างเข้าสู่สภาวะปกติ นายธนาธรก็โผล่มาให้ปล่อยตัวแกนนำ อ้างความชอบธรรมให้ตัวเองอีก”
นายสุภรณ์กล่าวต่อว่า คนทั้งประเทศเขารู้เช่นเห็นชาติว่าพฤติกรรมของนายธนาธรเป็นคนเอาแต่ได้ เห็นแก่ความสุขและประโยชน์ตนเอง เพราะนายธนาธรไม่แน่จริงที่จะเอาตัวไปเสี่ยงกับการชุมนุมที่ผิดกฎหมายหลายฉบับ นับว่าเป็นนักการเมืองหรือนักเคลื่อนไหวที่ขี้ขลาดแบบมะกอกสามตะกร้าปาไม่ถูก เหมือนศรีธนญชัย
“การที่นายธนาธรกล่าวหานายกฯ ว่าใช้อำนาจเกินเหตุนั้นไม่จริง เพราะว่าม็อบชุมนุมผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ได้เตือนแล้วแต่ไม่ยอมฟัง นายกฯ จึงต้องประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพื่อเข้าควบคุมสถานการณ์ให้บ้านเมืองสงบ เนื่องจากม็อบที่ชุมนุมขัดขวางขบวนเสด็จฯ ก้าวร้าวและจาบจ้วง และมีโอกาสเข้าบุกรุกทำลายทรัพย์สินราชการในทำเนียบรัฐบาล แกนนำปราศรัยใช้วาจาหยาบคายยุยงปลุกปั่น ก้าวล่วงสถาบันฯ ตลอดเวลา และพยายามยุยงให้เกิดความรุนแรง ให้เกิดความเสียหายต่อการปกครองประเทศในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข”
นายสุภรณ์กล่าวว่า การที่นายธนาธรขู่ว่าหากนายกฯ ไม่ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และไม่ปล่อยตัวแกนนำม็อบที่ถูกจับกุมจะทำให้มีการขยายวงชุมนุมกันทั่วประเทศนั้น เหมือนกับว่านายธนาธรกำลังยุยงปลุกปั่นประชาชนให้ทำผิดกฎหมาย ขัดต่อประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ต่อไปคงมีคนนำคลิปนายธนาธรไปแจ้งความเพื่อให้ดำเนินคดีอย่างแน่นอน
“โดยส่วนตัวผมแล้ว เห็นว่าเมื่อประกาศ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน ควรเร่งรัดดำเนินคดีต่อแกนนำและผู้อยู่เบื้องหลัง ตลอดจนผู้สนับสนุนม็อบในการชุมนุมก่อความวุ่นวายทั้งหมดทุกคน ไม่มีการละเว้น ไม่ว่าจะเป็นหน้าไหนหรือใครก็ตาม ซึ่งทุกคนก็ทราบดีว่ามีใครบ้าง ไม่ต้องเอ่ยชื่อ อีแอบทั้งหลายอย่าปล่อยให้มาเพ่นพ่านปั่นป่วนวุ่นวายในบ้านเมืองอีกต่อไปไม่ได้แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด เพราะไม่งั้นคนเลวๆ เหล่านี้จะสร้างความแตกแยกให้แผ่นดิน และก้าวล่วงจวบจ้วงและคิดล้มล้างสถาบันฯ ไม่มีที่สิ้นสุด”