วันนี้ (8 ต.ค.) นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และหัวหน้าทีมทนายความ ได้กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญได้นัดพิจารณาและอ่านคำวินิจฉัยคดีเกี่ยวกับหุ้นสื่อ ส.ส.ในวันที่ 28 ตุลาคม 2563 ว่าในฐานะที่รับผิดชอบเรื่องนี้ร่วมกับคณะทนายความ และมีประธานที่ปรึกษานายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ร่วมในการต่อสู้คดี ทีมทนายความมั่นใจในคุณสมบัติของ ส.ส.ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ว่าไม่มีใครเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชน ได้นำเสนอพยานหลักฐานครบถ้วนเพื่อชี้ให้เห็นว่าบริษัทของ ส.ส.แต่ละคนไม่ได้ทำกิจการดังที่กล่าว หลักฐานเริ่มต้นชัดเจนในการจดจัดตั้งบริษัทใน สสช.1 และเป็นแบบฟอร์มพื้นฐาน อีกทั้งไม่เคยขออนุญาตจดทะเบียนทำสื่อใด สินทรัพย์ บัญชีรายรับ รายจ่าย ไม่มีสินทรัพย์ใดที่เกี่ยวกับกิจการสื่อ และรายละเอียดอื่นๆ ได้ส่งศาลรัฐธรรมนูญไปครบถ้วนสมบูรณ์ข้อเท็จจริงจึงสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของมาตรา 98 (4) ที่ต้องการป้องกันในเรื่องการเข้าไปแทรกแซงการทำหน้าที่ของสื่อสารมวลชนและเพื่อป้องกันความได้เปรียบเสียเปรียบกันในขณะลงสมัครรับเลือกตั้งและในขณะเป็น ส.ส.
ดังนั้น สาระสำคัญแห่งเจตนารมณ์ คือ ต้องเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์ หรือสื่อมวลชนใดที่ได้ประกอบกิจการดังกล่าวอย่างแท้จริง และด้วยข้อเท็จจริงที่ได้นำเสนอไปอย่างครบถ้วนจึงไม่มีความกังวลใจ ท้ายที่สุดอยู่ที่ดุลพินิจของศาลรัฐธรรมนูญ เคารพในผลของคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ บ้านเมืองมีกฎหมาย เมื่อมีการร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ถูกร้องก็แก้ข้อกล่าวหา ผลเป็นอย่างไรก็ต้องพร้อมยอมรับในกระบวนการยุติธรรม และในวันดังกล่าว ส.ส.ทุกคนที่เป็นผู้ถูกร้องจะร่วมเดินทางไปรับฟังคำวินิจฉัยด้วยตนเอง