กสม.ประสานกระทรวงยุติธรรม ขอความร่วมมือเร่งคุ้มครองสิทธิมนุษยชนนักปกป้องสิทธิฯ และประชาชนที่ชุมนุมคัดค้านการต่อใบอนุญาตเหมืองหินดงมะไฟ พร้อมขอเพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยผู้ชุมนุม “ผู้หญิง-ผู้สูงอายุ”
วันนี้ (5 ต.ค.) นางประกายรัตน์ ต้นธีรวงศ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ทำหน้าที่แทนประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวว่า กสม. ได้ประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเร่งด่วนเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยให้แก่นายเลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ ที่ปรึกษากลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได และชาวบ้านที่ชุมนุมคัดค้านการต่อประทานบัตรเหมืองหิน ในพื้นที่ตำบลดงมะไฟ อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู โดยล่าสุดได้ลงพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภูเพื่อติดตามความคืบหน้าการประสานการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในเรื่องนี้ เพราะ กสม.มีความห่วงใยในเรื่องความปลอดภัยของผู้ชุมนุม อีกทั้งต้องการรับทราบข้อมูลจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ การลงพื้นที่ดังกล่าวได้หารือหน่วยงานของรัฐ ฝ่ายความมั่นคง ทำให้ กสม.ได้ทราบถึงข้อมูลและกระบวนการต่างๆ ในส่วนที่เกี่ยวกับกิจการเหมืองหินที่เป็นประเด็นขัดแย้งในพื้นที่ต่อเนื่องมากกว่า 20 ปี รวมทั้งมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บด้วย โดยได้เสนอให้ทางจังหวัดหนองบัวลำภู นำแผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนที่คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบ ซึ่งมีแผนปฏิบัติการด้านนักปกป้องสิทธิมนุษยชนมาปรับใช้เพื่อลดการเผชิญหน้าหรือเหตุรุนแรงในพื้นที่ และอาจหาคนกลางที่ได้รับการยอมรับเข้ามาช่วยเจรจาให้ปัญหาในพื้นที่ได้รับการคลี่คลาย
“คณะของ กสม.ยังได้เข้าไปสังเกตการณ์การชุมนุมของกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได เพื่อรับฟังเหตุผลในการคัดค้านการต่อประทานบัตรหลังจากใบอนุญาตสิ้นสุดลงเมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทำให้ทราบว่าปัจจุบันเรื่องใบอนุญาตประทานบัตรยังมีการฟ้องร้องอยู่ในการพิจารณาของศาลปกครองเป็นผลให้ กสม.ไม่สามารถก้าวล่วงไปตรวจสอบในประเด็นที่ศาลกำลังพิจารณาได้ ซึ่งชาวบ้านก็เข้าใจในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามชาวบ้านต้องการให้หน่วยงานของรัฐเข้ามาดูแลความปลอดภัยให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมมากที่สุด”
นางประกายรัตน์ยังกล่าวด้วยว่า เมื่อวันที่ 2 ต.ค. ได้ทำหนังสือถึง รมว.ยุติธรรม เพื่อขอให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เร่งหามาตรการคุ้มครองความปลอดภัยให้กับนายเลิศศักดิ์ ที่ปรึกษากลุ่มอนุรักษ์ฯ และประชาชนกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได ที่ชุมนุมอยู่ในพื้นที่ตำบลดงมะไฟ อำเภอสุวรรณคูหา จังหวัดหนองบัวลำภู และขอให้ติดตามคดีที่ 4 แกนนำผู้ชุมนุมซึ่งได้เสียชีวิตไปเมื่อหลายปีก่อน เพื่อดำเนินการจับผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรม อีกทั้งได้ประสานไปยังผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสุวรรณคูหา ให้ช่วยเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมาคอยดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมซึ่งมีทั้งผู้หญิงและผู้สูงอายุรวมอยู่ด้วย เพื่อเป็นหลักประกันว่าจะไม่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงต่อนักปกป้องสิทธิมนุษยชน และประชาชน และให้กระบวนการยุติธรรมเป็นที่พึ่งของประชาชนได้อย่างแท้จริง