ศาล รธน.เคาะมติเอกฉันท์ 3 มาตรา ประมวลวิธีพิจารณาความอาญาไม่ขัด รธน. ไม่กระทบสิทธิ
วันนี้ (30 ก.ย.) ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการพิจารณาคำร้องที่ศาลแขวงพระนครใต้ ส่งคำโต้แย้งของจำเลยที่ 2 ขอให้ศาลวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 212 ว่า ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 226/3 มาตรา 227 และมาตรา 227/1 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 วรรคสอง มาตรา 4 และมาตรา 29 วรรคสอง หรือไม่ โดยศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ว่า ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 226/3 ที่บัญญัติห้ามมิให้ศาลรับฟังพยานบอกเล่า เว้นแต่ ตามสภาพ ลักษณะ แหล่งที่มา และข้อเท็จจริงแวดล้อมพยานบอกเล่านั้น น่าเชื่อว่าจะพิสูจน์ความจริงได้ หรือมีเหตุจำเป็น เนื่องจากไม่สามารถนำบุคคลซึ่งเป็นพยานโดยตรงมาเป็นพยานได้ มาตรา 227 ที่บัญญัติให้ศาลใช้ดุลพินิจชั่งน้ำหนักพยานหลักฐาน โดยให้ลงโทษได้เฉพาะกรณีที่แน่ใจว่าจำเลยกระทำผิดจริง และมาตรา 227/1 ที่บัญญัติให้ศาลชั่งน้ำหนักพยานบอกเล่าด้วยความระมัดระวัง นั้น ไม่ขัดต่อหลักนิติธรรม ไม่กระทบต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ไม่เป็นการจำกัดสิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคของบุคคล โดยใช้บังคับแก่คู่ความทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมกัน ไม่เป็นการเลือกปฏิบัติต่อคู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และไม่ได้เป็นบทบัญญัติที่เป็นการสันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยมีความผิด จึงไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 วรรคสอง มาตรา 4 และมาตรา 29 วรรคสอง