มติศาลรัฐธรรมนูญเอกฉันท์ วินิจฉัย พ.ร.ก.การประมง ไม่ขัดหรือแย้งรัฐธรรมนูญ เหตุไม่ขัดต่อหลักนิติธรรม ไม่กระทบสิทธิ
วันนี้ (9 ก.ย.) ศาลรัฐธรรมนูญได้ประชุมปรึกษาพิจารณาคดีที่ศาลจังหวัดนราธิวาสส่งคำโต้แย้งของนายดีน หมุดแหล๊ะ ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 212 ว่า พ.ร.ก.การประมง พ.ศ. 2558 มาตรา 151 วรรคสี่ ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 4 มาตรา 26 มาตรา 29 และมาตรา 40 หรือไม่ โดยศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์วินิจฉัยว่า พ.ร.ก.การประมง พ.ศ. 2558 มาตรา 151 วรรคสี่ ที่บัญญัติโทษปรับแก่ผู้กระทำความผิด ซึ่งเป็นเจ้าของเรือที่มีขนาดตั้งแต่หนึ่งร้อยห้าสิบตันกรอสขึ้นไป ที่ไม่ติดตั้งระบบติดตามเรือประมง และดูแลรักษาให้ระบบดังกล่าวสามารถใช้งานได้ตลอดเวลา ให้ต้องระวางโทษปรับ 4 ล้านบาทนั้นไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 4 มาตรา 26 มาตรา 29 และมาตรา 40 เนื่องจากไม่ขัดต่อหลักนิติธรรม ไม่เพิ่มภาระหรือจำกัดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคล โดยเฉพาะเสรีภาพในการประกอบอาชีพจนเกินสมควรแก่เหตุ ไม่เป็นการกำหนดโทษที่หนักกว่าการกระทำความผิด เป็นไปตามหลักความได้สัดส่วน และไม่กระทบต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ความเสมอภาคของบุคคล ทั้งยังเป็นกฎหมายที่ใช้บังคับเป็นการทั่วไป ไม่มุ่งหมายให้ใช้บังคับแก่กรณีใดกรณีหนึ่งหรือแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่งเป็นการเจาะจง