“บิ๊กแดง” ทำพิธีส่งมอบตำแหน่ง ผบ.ทบ. ย้ำค้ำจุนชาติ-ราชบัลลังก์ “ณรงค์พันธ์” ชูนิ้วโป้งรับไม้ต่อ ประกาศสานต่อทุกภารกิจ จับตาถก นขต.ทบ.นัดแรก 6 ต.ค. พร้อมให้สัมภาษณ์นโยบายและแนวทางการทำงาน
วันนี้ (29 ก.ย.) เวลา 10.30 น. ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก และ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (คนใหม่) ร่วมกระทำพิธีรับส่งหน้าที่ผู้บัญชาการทหารบก โดยได้กระทำพิธีสักการะศาลพระชัยมงคลภูมิ วางพานพุ่มถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ ๕ พร้อมลงนามเอกสารรับส่งหน้าที่ผู้บัญชาการทหารบก
จากนั้นจึงเดินทางมายังบริเวณพิธีรับส่งหน้าที่ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมขึ้นแท่นรับการเคารพ จากกองผสมสวนสนาม ซึ่งจัดจากกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์, กองพันทหารม้าที่ 1 กรมทหารม้าที่ 1 รักษาพระองค์ ผสมกองพันทหารม้าที่ 3 กรมทหารม้าที่ 1 รักษาพระองค์ และกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 11กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ กองพันละ 116 นาย และหมู่เชิญธงประจำกองทัพบก 2 หมู่ หมู่ละ 4 นาย จัดจาก กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ และกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ รวม 561 นาย ผู้บังคับกองผสม
จากนั้น พล.อ.อภิรัชต์ส่งหน้าที่พร้อมธงผู้บัญชาการทหารบก ให้แก่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (คนใหม่) โดยระบุว่า ตามที่มีพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ เป็น ผบ.ทบ.ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้ และเป็นเกียรติอันสูงยิ่งของการรับราชการในกองทัพ ตนขอแสดงความยินดีด้วยความจริงใจ การปฏิบัติหน้าที่มาตลอดชีวิตรับราชการ ที่รู้สึกเป็นเกียรติและภาคภูมิใจที่ได้มีโอกาสอันสำคัญยิ่งในการทำหน้าที่ทหารของชาติ พิทักษ์รักษาความมั่นคงให้แก่ชาติบ้านเมือง ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ และสร้างสันติสุขให้แก่ประชาชน
ในขณะดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก ตนมีความมุ่งหวังที่ทำให้กองทัพบกดำรงไว้ซึ่งเกียรติและศักดิ์ศรีในการที่เป็นสถาบัน เป็นรากฐานความมั่นคงของประเทศด้วยการพัฒนากองทัพบกในทุกด้านและปฏิรูปให้มีความทันสมัย มีประสิทธิภาพ ปรับตัวเข้ากับยุคสมัยที่มีการเปลี่ยนแปลงและก้าวทันเทคโนโลยีสมัยใหม่โดยให้เกิดผลสัมฤทธิ์ของภารกิจสำคัญ
สำหรับผู้บัญชาการทหารบกคนใหม่ ตนเชื่อมั่นในความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ด้านฝ่ายอำนวยการและผู้บังคับหน่วยในสนามและหน่วยปกติ อีกทั้งจิตวิญญาณของความเป็นทหารและความมุ่งมั่นในการทำงานที่ยึดถือผลประโยชน์และความมั่นคงของชาติเป็นสำคัญ ที่จะสามารถรับผิดชอบสานต่อภารกิจที่มาพร้อมกับตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกภายใต้ผืนธงนี้อย่างดียิ่ง และจะนำพากองทัพขับเคลื่อนด้วยความมั่นคงเป็นปึกแผ่นต่อไป จึงขอส่งมอบตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกและการบังคับบัญชาให้แก่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ขณะที่ พล.อ.ณรงค์พันธ์กล่าวว่า จากการที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ตนดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไปนั้น นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้ ตนขอน้อมรับหน้าที่อันมีเกียรตินี้ด้วยความสำนึกในความรับผิดชอบเป็นอย่างยิ่ง ในการปฏิบัติหน้าที่ราชการและดำรงตำแหน่งผู้นำสูงสุดของกองทัพบกนั้น พล.อ.อภิรัชต์ได้แสดงให้เห็นถึงการเป็นทหารอาชีพที่มีอุดมการณ์แน่วแน่ ทุ่มเท เสียสละในการทำหน้าที่เพื่อส่วนรวมอย่างเต็มกำลังความสามารถ และมีความจงรักภักดีอย่างมั่นคงต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
ขอยืนยันต่อท่านทั้งหลายว่าจะสานต่อภาระ หน้าที่ นโยบายและอุดมการณ์การทำงานของท่านผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อย่างเต็มความสามารถที่จะปกครองผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยความเป็นธรรม ดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด และพร้อมจะนำพากำลังพลในกองทัพบกปฏิบัติภารกิจบนพื้นฐานของความสามัคคีร่วมแรงร่วมใจดู และพัฒนากองทัพบกให้มีความเจริญก้าวหน้า สามารถยืนหยัดเป็นสถาบันหลักด้านความมั่นคงที่ค้ำจุนประเทศชาติ และราชบัลลังก์อย่างยั่งยืนตลอดไป ในโอกาสสำคัญนี้ขอรับมอบหน้าที่ผู้บัญชาการทหารบกและสายการบังคับบัญชาตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
จากนั้น พล.อ.อภิรัชต์ได้เดินมาอำลากำลังพลพร้อมสื่อมวลชน โดยระบุว่าขอบคุณสื่อทุกคน พร้อมสวมกอด น.ส.อนุกูล วงศ์บัวทอง ผู้สื่อข่าวอาวุโสสายทหาร ในวัย 85 ปี โดยขอให้รักษาสุขภาพ ก่อนจะขึ้นรถเดินทางกลับ
ส่วน พล.อ.ณรงค์พันธ์กล่าวกับผู้สื่อข่าวภายหลังเสร็จพิธีว่า ตนจะให้สัมภาษณ์ถึงนโยบายและแนวทางการทำงานในกองทัพบกเป็นครั้งแรกภายหลังการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก 6 ต.ค.
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกอย่างไรบ้างรับมอบตำแหน่งวันแรก พล.อ.ณรงค์พันธ์กล่าวว่า เรียบร้อยดี พร้อมชูนิ้วโป้ง