ส.ส.ร้อยเอ็ด พท. อภิปรายดักคอ “ประยุทธ์” 6 ญัตติแก้ไข รธน.ต้องผ่านสภา ชี้หากไม่ผ่านถือว่าที่พูดเป็นแค่วาทกรรม-ตัวอุปสรรค
วันนี้ (24 ก.ย.) น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย อภิปรายหลักการการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยชี้ว่าการทำประชามติรัฐธรรมนูญปี 2560 ถูกจำกัดการแสดงออก มีการจับกุมคุมขังผู้เห็นต่าง ไม่เป็นไปตามหลักการสากล และไม่ควรนำมาผูกมัดว่ารัฐธรรมนูญจะไม่สามารถแก้ไขได้ แต่ต้องสามารถปรับตามความเปลี่ยนแปลงในอนาคต แม้เนื้อในจะมีช่องทางให้แก้ไข แต่ขั้นตอนสลับซับซ้อน ยากแก่การแก้ไขจริง ขณะที่ฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลเล็งเห็นว่ารัฐธรรมนูญมีปัญหากว่าร้อยมาตรา ที่จำเป็นต้องแก้ไข
น.ส.จิราพรย้ำว่า รัฐธรรมนูญกลายเป็นต้นเหตุความขัดแย้งในสังคม ล้าหลัง ไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก รวมถึงวิกฤตเศรษฐกิจ วิกฤตโรคระบาด เพราะรัฐธรรมนูญเป็นตัวกำหนดผู้ที่เข้าสู่อำนาจรัฐ ว่าจะใช้อำนาจรัฐเพื่อประชาชนหรือเพื่อคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ซึ่งการแก้ไขรัฐธรามนูญเพียงแค่ ส.ส.และ ส.ว. เห็นชอบทั้ง 6 ญัตติก็จะนำไปสู่การเปิดประตูแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เคยถูกครหาว่าเป็นฉบับตอกฝาโลงประชาธิปไตย ส่วนที่บางคนบอกสิ้นเปลืองงบประมาณถ้าเทียบการได้ผู้นำที่ประชาชนไม่ได้เลือก และบริหารเศรษฐกิจพังพินาศ หากแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้วทำให้คนไทยหลุดพ้นโครงสร้างและผู้นำแบบนี้ก็ถือว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม
“การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นนโยบายที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประเทศไว้ต่อรัฐสภา และยังกล่าวว่า ให้ฟังข้อสรุปคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มีข้อสรุปว่ารัฐธรรมนูญมีปัญหาต้องแก้ไข สอดคล้องกับข้อเรียกร้องของกลุ่มต่างๆ ดังนั้น หากรัฐธรรมนูญไม่ผ่านการลงมติ สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์พูดจะเป็นเพียงวาทกรรมซื้อเวลา หลอกประชาชน และจะกลายเป็นอุปสรรคต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ” ส.ส.ร้อยเอ็ดกล่าว
วันนี้ (24 ก.ย.) น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย อภิปรายหลักการการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยชี้ว่าการทำประชามติรัฐธรรมนูญปี 2560 ถูกจำกัดการแสดงออก มีการจับกุมคุมขังผู้เห็นต่าง ไม่เป็นไปตามหลักการสากล และไม่ควรนำมาผูกมัดว่ารัฐธรรมนูญจะไม่สามารถแก้ไขได้ แต่ต้องสามารถปรับตามความเปลี่ยนแปลงในอนาคต แม้เนื้อในจะมีช่องทางให้แก้ไข แต่ขั้นตอนสลับซับซ้อน ยากแก่การแก้ไขจริง ขณะที่ฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลเล็งเห็นว่ารัฐธรรมนูญมีปัญหากว่าร้อยมาตรา ที่จำเป็นต้องแก้ไข
น.ส.จิราพรย้ำว่า รัฐธรรมนูญกลายเป็นต้นเหตุความขัดแย้งในสังคม ล้าหลัง ไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก รวมถึงวิกฤตเศรษฐกิจ วิกฤตโรคระบาด เพราะรัฐธรรมนูญเป็นตัวกำหนดผู้ที่เข้าสู่อำนาจรัฐ ว่าจะใช้อำนาจรัฐเพื่อประชาชนหรือเพื่อคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ซึ่งการแก้ไขรัฐธรามนูญเพียงแค่ ส.ส.และ ส.ว. เห็นชอบทั้ง 6 ญัตติก็จะนำไปสู่การเปิดประตูแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เคยถูกครหาว่าเป็นฉบับตอกฝาโลงประชาธิปไตย ส่วนที่บางคนบอกสิ้นเปลืองงบประมาณถ้าเทียบการได้ผู้นำที่ประชาชนไม่ได้เลือก และบริหารเศรษฐกิจพังพินาศ หากแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้วทำให้คนไทยหลุดพ้นโครงสร้างและผู้นำแบบนี้ก็ถือว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม
“การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นนโยบายที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประเทศไว้ต่อรัฐสภา และยังกล่าวว่า ให้ฟังข้อสรุปคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มีข้อสรุปว่ารัฐธรรมนูญมีปัญหาต้องแก้ไข สอดคล้องกับข้อเรียกร้องของกลุ่มต่างๆ ดังนั้น หากรัฐธรรมนูญไม่ผ่านการลงมติ สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์พูดจะเป็นเพียงวาทกรรมซื้อเวลา หลอกประชาชน และจะกลายเป็นอุปสรรคต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ” ส.ส.ร้อยเอ็ดกล่าว