วันนี้ (19 ก.ย.) น.ส.วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหารชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟชบุ๊ก Wassana Nanuam โดยมีเนื้อหาระบุว่า ทำความรู้จัก “บิ๊กแก้ว” ผบ.ทหารสูงสุด คนใหม่ “ทหารม้าคอแดง” รวดเร็ว รุนแรง เด็ดขาด แบบสายบู๊ ทว่า สุขุม นุ่ม นิ่ง แบบ นักบุ๋น อยู่ในที
นานๆ ที่นายทหาร เหล่าม้า จะได้ทะลุขึ้นมา สู่ระดับผู่นำกองทัพ
เพราะเหล่าทหารม้า โตยาก มีตำแหน่งให้เติบโต ได้จำกัด ถ้าจะเป็น ม้าในคอก ม้าในกองพล ก็ต้องรอต่อแถว อาวุโส. ...สมัยก่อน ผู้พัน ผู้การทหารม้า เลยมักจะเป็นรุ่นพี่ของบรรดา ผู้พัน ผู้การ ที่เป็นเหล่าทหารราบ
เป็นทหารม้า ที่นอกจากเก่ง แล้ว ต้องอายุน้อย เรียนเร็ว ด้วย
นายทหารม้า ชั้นผู้ใหญ่ หลายคน ทะลุฝ่าด่าน มาได้ ถึงแค่ 5 เสือ ทบ. เท่านั้น ก็เกษียณ ซะก่อน
ครั้งหนึ่งเมื่อ 3-4 ปี ก่อน ที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ ทหารม้าตบเท้าอวยพรวันเกิด พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ป๋าของทหารม้า ป๋าถามว่า ในทหารม้า มีใครเป็นความหวังบ้าง ตอนนั้น บิ๊กช้าง พลเอก ชัยชาญ ช้างมงคล เป็นปลัดกลาโหม
จึงมีเสียง เอ่ยชื่อ บิ๊กแก้ว นี่ล่ะ
“บิ๊กแก้ว” พลเอก เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ นี่ล่ะ ที่ถูกจับตามอง ตั้งแต่ เป็น ผบ.พล.ม.2 รอ. แล้วว่า น่าจะขึ้นถึง ผบ.ทบ.
แต่ต่อมา ชื่อของ บิ๊กบี้ พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ มาแรง ตั้งแต่เป็น ผบ.พล.1 รอ. ... ที่ทุกคนต้องหลีกทางให้
“บิ๊กแก้ว” ที่มีอายุราชการถึง 2566 เท่า “บิ๊กบึ้” ก็ต้อง แยกวง
“บิ๊กแดง” พลเอก อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. จึงหนุนให้ “บิ๊กแก้ว” ข้ามห้วย ไปเติบโต ที่ บก.กองทัพไทย พร้อมส่งสัญญาณ ว่าจะมาเป็น ผบ.ทหารสูงสุด
ที่เป็น ทหารคอแดง ที่ปฏิบัติหน้าที่ ใน ฉก.ทม.รอ.904 คนแรก
ส่งผลให้ “บิ๊กกบ” พลเอก พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผบ.ทหารสูงสุด ต้องปรับแผนการวางทายาททัพไทยใหม่. ใครที่เกษียณ ก่อน บิ๊กแก้ว ก็หมดโอกาส กันไป
คนใน บก.ทัพไทย เริ่มทำใจยอมรับความเปลี่ยนแปลง ในยุคเปลี่ยนผ่าน
ที่สุด พลเอก เฉลิมพล ก็ได้รับโปรดเกล้าฯ เป็น ผู้บัญชาการทหารสูงสุด คนใหม่ คนที่ 35
และเป็นนายทหารเหล่าม้า ที่นานๆ จะได้ขึ้นเป็น ผบ.เหล่าทัพ ก่อนหน้านี้ เคยมี “บิ๊กตุ้ย” พลเอก ทรงกิตติ จักกาบาตร์ เป็นผบ.ทหารสูงสุด ในปี 2554
“บิ๊กแก้ว” เป็น เตรียมทหาร 21 มีอายุราชการถึง ต.ค. 2566 ถ้านั่งจนเกษียณ จะนั่งนานถึง 3 ปี
พล.อ.เฉลิมพล เกิดเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2506 หลังวันทหารม้า 4 มกราคม วันเดียว
เด็กๆ เรียนที่ โรงเรียนพิบูลวิทยาลัย ลพบุรี. ก่อนเข้า โรงเรียนเตรียมทหาร รุ่น 21 และโรงเรียนนายร้อย จปร. รุ่น 32 เลือกเหล่าทหารม้า หน่วยกำลังรบ ที่มีลักษณะไม่เหมือนใคร
ตอนเป็นทหารม้าเด็กๆ รับราชการที่ ม.พัน1 รอ. เป็นทหารม้ากรุงฯ ตอนที่ “บิ๊กต๊อก” พบเอก ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผบ.ทหารสูงสุด คนก่อน เป็น ผู้พัน
ก่อนที่จะไปเติบโต เป็น ผู้บังคับกองพันทหารม้าที่ 25 รักษาพระองค์ (ม.พัน 25 รอ.) ที่สระบุรี
หลังจาก จบ รร.เสธ.ทบ.รุ่น 72 “บิ๊กแก้ว” จากสายบู๊ ก็มาเป็น สายบุ๋น มาอยู่กรมยุทธการทหารบก และเติบโต จนเป็น ผู้อำนวยการกอง กรมยุทธการทหารบก
ก่อนที่จะกลับมาเป็น ม้าในกองพล กลับสายบู๊ อีกครั้ง เป็น เสนาธิการกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) ที่เคยถูกเรียก กองพลทหารม้าปฏิวัติ
จนเป็น รองผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ และเป็น พลตรี ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์
ท่ามกลางการถูกจับตามอง เพราะในยุค คสช. มีการมอบหมายให้ พล.ม.2 รอ. ทำหน้าที่จัดระเบียบสังคมใหม่ ทั้งสถานบันเทิง ปราบบ่อน คิวรถตู้ วิน จยย. และเป็นหน่วยทหารม้า ปฏิบัติการพิเศษ ด้วย บทบาท บิ๊กแก้ว ยิ่งโดดเด่น
ก่อนข้ามกลับถิ่นเดิม “ย.ก.ทบ.” ติดพลโท เป็น เจ้ากรมยุทธการทหารบก แล้วก็ขึ้นที่ บก.ทบ. เป็น รองเสนาธิการทหารบก
ในโยกย้าย เม.ย. 2562 “บิ๊กแดง” ตั้ง “บิ๊กแก้ว” เป็น พลเอก ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก และในโผปลายปี 2562 ส่ง ไป บก.ทัพไทย เป็น เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย
จนได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด คนที่ 35 และเป็นทหารคอแดงคนแรก
และอาจเป็นการเริ่มต้น ของ กองทัพไทย สู่การเป็นทหารคอแดง