ผบ.ทบ.ตรวจเยี่ยมและมอบรางวัลการแข่งขันการทดสอบร่างกายเพื่อความพร้อมรบ ย้ำทหารต้องมีวินัยทางสมอง อย่าหลงเชื่ออะไรง่ายๆ อยู่บนพื้นฐานของความจริง ย้ำมีเครื่องลบรอยสักสำหรับรับราชการ
วันนี้ (14 ก.ย.) ที่สนามฝึกกรมยุทธ์ โรงเรียนเสนาธิการทหารบก พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ตรวจเยี่ยมและมอบรางวัลการแข่งขันการทดสอบร่างกายเพื่อความพร้อมรบ ระดับกองทัพบก (Army Combat Fitness Test : ACFT) โดยมี พล.ท.ธเนศ วงศ์ชะอุ่ม เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก เป็นประธาน
พล.อ.อภิรัชต์กล่าวให้โอวาทตอนหนึ่งว่า การออกกำลังกายโดยการทดสอบสมรรถภาพร่างกายประจำปีเป็นเรื่องที่ทำกันมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้กองทัพบกต้องมีการปรับปรุงและต่อยอดจากแนทสงของอดีต ผบ.ทบ. ถือเป็นแบบอย่างที่ดีในเรื่องความมีวินัยที่ท่านลงมาเล่นกีฬา ออกกำลังกาย และทดสอบร่างกายประจำปีกับผู้ใต้บังคับบัญชาเสมอ นั่นคือลักษณะผู้นำและเป็นแรงผลักดันให้กำลังพลทุกคนในกองทัพบกเพิ่มมาตรฐานและขีดความสามารถของตัวเอง นอกเหนือจากการออกกำลังกายแล้วยังมีเรื่องของการฝึกภาษาเพื่อไปต่อยอดในเรื่องของงานต่างๆ
ส่วนการทดสอบร่างกายเพื่อการซ้อมรบนั้น ได้มีการทดสอบและดูตัวอย่างมาจากหลายประเทศด้วยกัน และเห็นแล้วว่าเป็นประโยชน์กับกำลังพลหน่วยกำลังรบ ไม่ว่าจะเป็นทหารราบ ทหารม้า หรือทหารพราน รวมถึงหน่วยงานอื่น แต่ขอเน้นย้ำว่า การทดสอบร่างกายเพื่อการซ้อมรบ เป็นการออกกำลังกายและทดสอบร่างกายแบบทางเลือก กองทัพบกยังใช้การตัดสิน ผ่าน หรือไม่ผ่าน ตามแนวทางรับราชการ และตามเกณฑ์อายุของพวกท่าน ตามการทดสอบแบบเดิม 3 ท่า คือ ดันพื้น ลุกนั่ง และการวิ่ง แต่การทดสอบร่างกายเพื่อการซ้อมรบ เป็นตัวเลือกหรือทางเลือก แต่เหมาะสำหรับหน่วยกำลังรบเพราะทุกคนเมื่ออยู่ในสนามรบจริงๆ เช่น ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ การสร้างกล้ามเนื้อให้ทุกคนบรรเทาความเมื่อยล้า บาดเจ็บของกล้ามเนื้อไปได้ อย่างไรก็ตาม การทดสอบเช่นนี้เป็นการแข่งขันและอาจจะไม่มีในทุกปี ก็ถือเป็นเรื่องที่เริ่มต้นไปให้แล้วขอให้นำท่าทางไปฝึกสอน
“ทหารความมีวินัยเป็นเรื่องที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง หากมีวินัย นอกจากวินัยทางร่างกายแล้ว ต้องมีวินัยทางสมองด้วย หากสมองขาดวินัย เข้าใจผิด หลงเชื่ออะไรง่ายๆ นั่นคือวินัยของสมองไม่มี ต้องอยู่กับความจริงบนพื้นฐานของความจริงว่าความจริงเกิดอะไรขึ้น” ผบ.ทบ.กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้น พล.อ.อภิรัชต์ได้มอบรางวัลให้ทีมชนะเลิศ จากกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 4 (ร.4 พัน.3) รองอันดับ 1 กองพันรบพิเศษที่ 1 กรมรบพิเศษที่1 (รพศ.1 พัน.1) รองอันดับ 2 กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 6 (ร.6 พัน.1) พร้อมได้เดินทักทายผู้ร่วมแข่งขันทุกทีมที่ประกอบกำลังทั้งจาก นายทหาร จ่า นายสิบ พลอาสา และพลทหาร เข้าร่วมทีม พร้อมสอบถามเรื่องวุฒิการศึกษา และความต้องในการเข้ารับราชการทหารในอัตรานายสิบทหารบก ภูมิลำเนา ความชอบแต่ละบุคคลในการออกกำลังกาย พร้อมให้กรมยุทธศึกษาทหารบกช่วยดูเรื่องขั้นตอนการบรรจุ ส่วนคนที่ต้องการเข้ารับราชการแต่มีรอยสัก ทางศูนย์การทหารราบ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีเครื่องในการรบรอยสักได้ หากสมัครและสอบเข้ารับราชการสามารถส่งไปลบรอยสักได้
นอกจากนั้นยังได้ชื่นชมกำลังพลที่อายุมากที่สุดในการแข่งขัน คือ 45 ปี ว่าแข็งแกร่ง สามารถสู้กับกำลังพลอายุน้อยได้ โดย พล.อ.อภิรัชต์ได้สอบถามความเห็นถึงการทดสอบแบบเก่า และแบบ ACFT ว่ามีความแตกต่างอย่างไร กำลังพลบอกว่า การดันพื้นแบบเก่าเหมาะกับสรีระคนไทย ส่วนแบบใหม่ที่ต้องวางมือที่กว้างกว่าเหมาะกับสรีระของตะวันตกที่ขนาดของสรีระใหญ่กว่าคนไทย