ทบ.แจงภาพ “กระดูกไก่พะโล้ราดข้าว” จัดการปริมาณอาหารพลาด ไม่พอคนท้ายๆ ชี้หักอัตราค่าประกอบเลี้ยง 50 บาทต่อคนต่อวัน สำหรับ 3 มื้อ รับสั่งปรับปรุงแก้ไข พร้อมสอบสวนหาข้อเท็จจริง เพื่อปรับปรุงไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
วันนี้ (19 ก.ย.) พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพอาหารในถาดหลุมซึ่งเป็นภาพกระดูกไก่กับน้ำพะโล้ราดข้าว พร้อมกับข้อความอ้างว่าเป็นอาหารของพลทหาร และหนึ่งเหตุผลที่เงินไม่ค่อยเหลือเพราะเลือกไปซื้อกินร้านค้าดีกว่า รวมถึงยังระบุถึงการหักเบี้ยเลี้ยงอีก จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลมีเดียว่า ปัจจุบันโรงประกอบเลี้ยงของทหารจะมีสูตรอาหารที่ถูกกำหนดให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งกองทัพบกรับผิดชอบโดยกรมพลาธิการทหารบกเพื่อให้อาหารในแต่ละมื้อจะต้องมีรสชาติที่ดีเหมาะสม ควบคู่ไปกับคุณค่าทางอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายตามหลักโภชนาการ เช่น ควรมีคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน วิตามินในสัดส่วนที่เหมาะสม
พ.อ.วินธัยกล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องค่าประกอบเลี้ยงสำหรับหน่วยนี้ขอหักไว้ที่ 50 บาทต่อคนต่อวัน สำหรับ 3 มื้อ หรือเฉลี่ยแล้วตกมื้อละ 16-17 บาทนั้น ก็จะรวมถึงทั้งค่าข้าวสาร ค่ากับข้าว และค่าเชื้อเพลิงด้วย ถ้าเปรียบเทียบกับสังคมภายนอกทั่วไปแล้วนับว่าน้อยมาก และคงไม่เพียงพอที่จะให้แต่ละคนไปซื้อหากินเองได้ตามท้องตลาดทั่วไป ในระยะหลังด้วยความห่วงใยของผู้บังคับบัญชาในเรื่องคุณภาพชีวิตทหาร ได้มีสั่งการให้มีการเปิดหลักสูตรนายสิบสูทกรรม เพื่อให้ผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ในงานด้านสูทกรรมจะต้องมาเข้ารับการฝึกหลักสูตรนี้ทุกคน เพื่อให้การทำหน้าที่มีมาตราฐานเดียวกันทั้งกองทัพบก โดยแต่ละหน่วยต้องบริหารจัดการให้ดี ที่ผ่านมาก็มีหลายหน่วยบริหารจัดการได้และกำลังพลก็มีความพอใจ รวมทั้งยังมีการตรวจสอบตลอดเวลา บางหน่วยจะต้องมีการถ่ายภาพอาหารทุกมื้อที่พลทหารรับประทานส่งให้ผู้บังคับบัญชาในหน่วยรับทราบ หรือแม้แต่บางหน่วยมีผู้บังคับบัญชาสลับกันมาร่วมรับประทานอาหารกับพลทหารด้วย โดยขึ้นอยู่กับแต่ละหน่วยที่จะบริหารจัดการ
“ส่วนกรณีที่เป็นข่าวกับสื่อมวลชนล่าสุด เบื้องต้นพบว่าอาจเป็นข้อบกพร่องของเจ้าหน้าที่สูทกรรมของหน่วยที่อาจกำหนดปริมาณจำนวนไม่ดี หรือจัดสรรแบ่งปันได้ไม่ทั่วถึง ส่งผลให้คนท้ายๆ ได้รับอาหารได้ไม่เพียงพอทั่วถึง อย่างไรก็ตาม กองทัพบกไม่นิ่งนอนใจ เพราะกรณีดังกล่าวน่าจะเป็นเรื่องของบริหารจัดการที่บกพร่องซึ่งทางต้นสังกัดคงจะต้องรับไปดำเนินการแก้ไข โดยเฉพาะเข้าไปสอบสวนหาข้อเท็จจริงเพื่อนำไปปรับปรุงไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้อีก” พ.อ.วินธัยกล่าว