อดีตโฆษก ปชป.ค้านขยายสัมปทานบีทีเอส 30 ปี แลกล้างหนี้ กทม. ชี้เปิดช่องเอกชนขึ้นราคา เปิดผลกำไรสูงกว่าปีก่อน 184% สะท้อนธุรกิจขาขึ้น แต่รัฐดันโยนพุงปลามันให้เอกชน แนะปรับค่ารถเป็น 30 บาทตลอดสาย ควบล้างหนี้ กทม. คืนกำไรให้ ปชช.
วันนี้ (18 ก.ย.) นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กเรื่องขยายอายุสัมปทานบีทีเอส 30 ปี เอกชนได้ คนกรุงอ่วม มีเนื้อหาระบุว่า “เรื่องการขยายอายุสัมปทานรถไฟฟ้าบีทีเอสออกไปอีก 30 ปี ที่ยืดยื้อซื้อเวลากันมานานและมีข่าวว่าเร็วๆ นี้จะเข้า ครม.อีกครั้ง ผมขอแสดงจุดยืนไว้ตรงนี้ว่าไม่เห็นด้วยที่รัฐจะขยายอายุสัมปทานให้บีทีเอสออกไปอีก 30 ปี ในขณะที่สัญญาปัจจุบันกำลังจะหมดอายุในปี 2572 เท่ากับว่าหลังจากนั้น กทม.จะสามารถเข้าไปบริหารจัดการเองได้ โดยมีตัวเลือกทั้งการทำเอง หรือหาผู้เดินรถรายใหม่ด้วยการเปิดประมูลเลือกเอกชนที่ให้ประโยชน์สูงสุดกับรัฐ บนเงื่อนไขอัตราค่าโดยสารที่เป็นธรรมกับประชาชน ซึ่งน่าจะเป็นหนทางที่โปร่งใส มากกว่าการต่ออายุสัมปทานกับรายเดิม บนเงื่อนไขแลกกับหนี้ กทม. 7 หมื่นล้านบาท เพราะเป็นตัวเลขที่ต่ำเกินไป โดยคิดได้จากผลกำไรของบีทีเอสในปีงบประมาณ 2562/2563 ระหว่างเดือนเมษายน 2562 - มีนาคม 2563 บริษัทมีกำไรสุทธิสูงถึง 8.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 184% ในขณะที่แนวโน้มทางธุรกิจยังจะเติบโตตามความต้องการของประชาชน ที่หันมาเดินทางด้วยรถไฟฟ้ามากขึ้น
“คิดง่ายๆ ด้วยการเอาเงิน 8.2 พันล้านไปคูณกับระยะเวลาที่จะขยายสัมปทานไป 30 ปี จะได้ตัวเลข 246,000 ล้านบาท สูงกว่าหนี้ 7 หมื่นล้านบาท กว่า 3.5 เท่า ทำไมภาครัฐไม่ดำเนินการเองในธุรกิจที่เห็นอยู่แล้วว่ามีกำไร กลับคิดโยนชิ้นปลามันไปให้เอกชน ขณะเดียวกัน ในปัจจุบันอัตราค่าโดยสารบีทีเอสต่ำสุด 16 บาท สูงสุด 44 บาท บวกอีก 15 บาท หากเดินทางไปยังส่วนต่อขยายรวมสูงสุดที่ 59 บาท ซึ่งตามแผนที่จะขยายอายุสัมปทานออกไปมีกำหนดเพดานไม่ให้เกิน 65 บาท โดยหาก ครม.อนุมัติเรื่องนี้ผู้บริหารบริษัทเตรียมจะขยับเพดานราคาไปที่ 65 บาททันที กลายเป็นการเปิดช่องให้เอกชนขึ้นราคาได้ ทั้งๆ ที่มีผลศึกษาของนักวิชาการทีดีอาร์ไอระบุชัดว่า ค่าโดยสารรถไฟฟ้าไทยแพงที่สุดในโลก เมื่อเทียบกับรายได้ของคนไทย โดยมีข้อเสนอว่าราคาค่าโดยสารตลอดสายควรอยู่ที่ 30 บาท ซึ่งรัฐน่าจะใช้โอกาสที่กำลังจะหมดสัมปทาน คืนกำไรให้ประชาชน เพื่อเป็นสวัสดิการด้านคมนาคมให้คนกรุงเทพ ไม่ใช่คิดมักง่ายขยายอายุสัมปทานแลกหนี้ กทม. แต่ประชาชนยังต้องแบกรับภาระค่าโดยสารที่แพงเกินไปอยู่ดี เว้นแต่ว่าถ้าขยายอายุสัมปทาน บนเงื่อนไข กทม.ได้ล้างหนี้และคนกรุงเสียอัตราค่าโดยสาร 30 บาทตลอดสาย อย่างนี้น่าจะโอเคหน่อย” นายเชาว์ระบุทิ้งท้าย