โฆษกรัฐบาล เผย “ประยุทธ์” ย้ำรัฐบาลยึดมั่นคำสัตย์ปฏิญาณทำเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน เคารพกระบวนการรัฐสภา พร้อมนำคนไทย 66 ล้านคนฝ่าวิกฤตสุขภาพ-ศก. ห่วงสถานการณ์ เดินหน้าปฏิรูป ย้อนผ่านการตรวสอบตั้งแต่ คสช. ขออย่ารังเกียจทหาร
วันนี้ (9 ก.ย.) นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างการพิจารณาญัตติเปิดอภิปราย เพื่อซักถามข้อเท็จจริงและเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี ในประเด็นวิกฤตทางเศรษฐกิจ และวิกฤตทางการเมือง โดยไม่มีการลงมติ ณ ห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร อาคารรัฐสภา ชั้น 2 ถนนสามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ โดยนายกรัฐมนตรีย้ำรัฐบาลยึดมั่นคำสัตย์ปฏิญาณทำเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และพร้อมทำงานดูแลประชาชนคนไทยทั้ง 66 ล้านคน และจะทำหน้าที่ดีที่สุดเพื่อเดินหน้าประเทศฝ่าวิกฤตสุขภาพและเศรษฐกิจ
นายกรัฐมนตรีขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ให้ข้อเสนอแนะและคำแนะนำ ขอยืนยันว่าในการทำงานของรัฐบาลยึดมั่นในคำสัตย์ปฏิญาณ ทำเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชนคนไทยทั้งประเทศ 66,533,533 คน ทุกมาตรการที่มีมุ่งสอดคล้องกับการดูแลคนไทยทั้งหมด ยอมรับว่าการจะทำให้ทุกคนมีความสุขพอใจนั้น ค่อนข้างจะทำได้ยาก แต่จะไม่เกินความพยายามของรัฐบาลเพราะพยายามทำทุกอย่างให้สอดคล้องกับความต้องการ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน พร้อมยืนยันว่าตนเองเคารพกระบวนการของรัฐสภามาโดยตลอด จะทำทุกอย่างให้เกิดความชอบธรรม โปร่งใส ป้องกันการทุจริตให้ได้มากที่สุด หลายปัญหาที่สมาชิกฯ จะอภิปรายฯ ในวันนี้เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมายาวนาน เมื่อรัฐบาลเข้ามาทำหน้าที่ก็ต้องแก้ปัญหา โดยได้เตรียมการแก้ปัญหามาแล้วหลายปี ทั้งเรื่องกฎหมาย กระบวนการ กลไกต่างๆ ซึ่งก่อนหน้าที่รัฐบาลนี้จะเข้ามานั้นปัญหาหลายปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข วันนี้ยืนยันว่าจะรับผิดชอบแก้ไขทุกปัญหาให้ลุล่วงไปได้ด้วยดี
วันนี้รัฐบาลห่วงใยต่อสถานการณ์ทั้งภายในประเทศ สถานการณ์โควิด-19 ด้านเศรษฐกิจ และอื่นๆ ถึงแม้จะมีอุปสรรคอยู่บ้างก็ตามแต่ก็ได้พยายามทำหน้าที่อย่างเต็มที่เพื่อดูแลแก้ไขให้ทุกอย่างกลับฟื้นคืนสู่ปกติโดยเร็ว ด้วยความรอบคอบ ระมัดระวังข้อกฎหมาย ภายใต้งบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัด การกู้เงินจะทำต่อเมื่อมีความจำเป็นต้องกู้ หากไม่มีเหตุการณ์ก็ไม่ต้องกู้ สำหรับการแก้ไขปัญหาโควิด-19 ว่ารัฐบาลได้แก้ปัญหาได้เป็นที่น่าพอใจในระดับโลก ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายมากยิ่งขึ้น สำหรับเศรษฐกิจไทยกับต่างประเทศนั้น รองนายกรัฐมนตรีจะได้ชี้แจงต่อไปทั้งในส่วนอาเซียน ประชาคมโลก องค์กรต่างๆ ก็ได้จัดอันดับแล้ว
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลกำลังเริ่มดำเนินการปฏิรูปจากที่ผ่านมาไม่เคยมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเลย รัฐบาลนี้ได้ตั้งคณะทำงานศึกษา เพื่อหาแนวทางปรับลดจำนวนข้าราชการลง ขณะเดียวกันก็ต้องมีหน่วยงานขึ้นใหม่เพื่อทดแทนโดยไม่เพิ่มอัตรากำลังมากนัก หลายอย่างได้มีการปรับเปลี่ยนตามเทคโนโลยีต่างๆ ทั้งระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์และโทรศัพท์ที่ใช้สั่งการติดตามได้ ซึ่งแตกต่างจากกระบวนการปฏิรูปในระบบประชาธิปไตยมีความยุ่งยากพอสมควร ขอเพียงต่างคนต่างฟังกันบ้างก็จะนำไปสู่ความสำเร็จในการปฏิรูปทั้งทางการเมืองหรือทางประชาธิปไตย พร้อมย้ำว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้มีปัญหากับเด็กๆ มีแต่คนที่ทำให้เด็กๆ มีปัญหากับตน ซึ่งไม่ต้องการให้ลุกลามบานปลาย ประเทศไทยต้องมีความสงบให้มากที่สุดในช่วงเวลานี้ เพราะเป็นช่วงเวลาสำคัญที่เศรษฐกิจกำลังมีปัญหา
ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรียังยืนยันได้ผ่านการตรวจสอบในฐานะนายกรัฐมนตรี มาตั้งแต่เป็นคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จากกลไกต่างๆ ซึ่งพร้อมรับฟังคำชี้แจงและข้อทักท้วงของทุกฝ่ายเสมอ และยังฝากว่าขอให้อย่ารังเกียจทหาร ขอให้ทหารได้มีความภาคภูมิใจในการทำงาน ทหารทำงานด้วยความเสียสละอดทน ขอให้อย่าแยกทหารออกจากประชาชน เพราะวันนี้ทหารทำหน้าที่หลายอย่างมากมายทั้งป้องกันประเทศ พัฒนาประเทศ ป้องกันภัยพิบัติ ป้องกันโควิด-19 ทหารคือลูกหลาน ฉะนั้นขอให้ทุกคนร่วมมือกัน อย่าสร้างความเกลียดชังกันต่อไป