ส.ส.พลังธรรมใหม่ รับหนังสือ จนท.สธ. วอนกระทรวงเปิดโอกาสให้เปลี่ยนมาเป็นสายงานวิชาการ หลังไม่ได้รับการบรรจุ ขอให้เป็นขวัญกำลังใจ
วันนี้ (27 ส.ค.) นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังธรรมใหม่ รับหนังสือจากนายพิพัฒน์ ก้อนคำ เจ้าพนักงานสาธารณสุขชำนาญงาน ซึ่งเป็นแกนนำกลุ่มข้าราชการตำแหน่งประเภททั่วไป โดยทางกลุ่มขอเรียกร้องขอให้พิจารณากรณีข้าราชการตำแหน่งประเภททั่วไป ผู้มีคุณวุฒิปริญญาตรีด้านสาธารณสุขให้ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุขปฏิบัติการ และนักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการเป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากกลุ่มเจ้าพนักงานสาธารณสุขประเภททั่วไป ซึ่งเป็นผู้มีคุณวุฒิปริญญาตรีด้านสาธารณสุข ที่มีความรู้ ความสามารถ ทักษะและประสบการณ์ความชำนาญงานในการบริการและการบริหารจัดการงานด้านสาธารณสุข สามารถปฏิบัติงานในบทบาททางวิชาการด้านสาธารณสุขเหมือนกับตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุข หากแต่เป็นผู้ที่ยังไม่ได้รับการพิจารณากำหนดตำแหน่ง หรือดำเนินการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการคัดเลือกเพื่อบรรจุหรือแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการ
โดยนายพิพัฒน์กล่าวว่า ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา พวกตนได้ทำหน้าที่อย่างหนัก จึงขอให้พิจารณาเสนอต่อรัฐบาล คณะรัฐมนตรี กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงาน ก.พ. ให้เจ้าพนักงานสาธารณสุขประเภททั่วไป ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการ ตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุขปฏิบัติการ และนักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการเป็นกรณีพิเศษ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป
ด้าน นพ.ระวีกล่าวว่า ตนจะรับเรื่องนี้ไปพูดคุยกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพราะเท่าที่ตนดูเบื้องต้นแล้วการเรียกร้องตรงนี้ปัญหาเกิดจากเจ้าหน้าที่เหล่านี้จบด้านสาธารณสุขมาโดยตรง แต่สมัยนั้นเป็นการศึกษาในระดับอนุปริญญา ตอนนี้มีเจ้าหน้าที่ในกลุ่มนี้กว่า 10,000 คน มีอายุงานกว่า 19 ปี ซึ่งมีตำแหน่งเป็นระดับหัวหน้างานย่อย เช่น หัวหน้า รพ.สต., หัวหน้าฝ่าย
นพ.ระวีกล่าวต่อว่า ในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลได้มีการบรรจุเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใหม่ 45,000 อัตรา ซึ่งคนที่ได้รับการบรรจุคือลูกน้องของคนเหล่านี้ที่มีวุฒิปริญญาตรี แต่กลุ่มคนกลุ่มนี้สายงานในระดับทั่วไปตันแล้ว ไม่สามารถก้าวหน้าไปได้อีก อีกไม่นานคนที่รับได้การบรรจุก็จะแซงเจ้าหน้าที่ระดับทั่วไป
“สิ่งที่พวกเขาเรียกร้อง สาธารณสุขไม่ต้องใช้งบใหม่ เพื่อแค่เปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่เหล่านี้สามารถเปลี่ยนมาเป็นสายงานวิชาการได้เท่านั้น” นพ.ระวีกล่าว