“ประยุทธ์” มอบรางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น ปี 63 ยอคนไทยเป็นคนเก่ง คิดเก่ง แต่ช่วงนี้ขอให้คิดในสิ่งที่เป็นประโยชน์ก่อน ย้ำ ความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง จะเป็นพื้นฐานของเศรษฐกิจ ความเข้าใจซึ่งกันและกันความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกันจิตสำนึกร่วมกัน ก็จะทำให้ประเทศชาติปลอดภัย
วันนี้ (26 ส.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น ปี 2563 (Prime Minister’s Export Award 2020) พร้อมกล่าวตอนหนึ่ง ว่า ขอแสดงความยินดีและชื่นชมกับผู้ที่ได้รับรางวัล วันนี้โลกกำลังเปลี่ยน เราต้องปรับวิธีการทำงานทั้งหมด ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล ส่วนราชการ และบริษัทต่างๆ ต้องไปดูว่าจะต้องปรับตัวอย่างไรให้สอดคล้องกับสถานการณ์โลกในปัจจุบันที่เรียกว่าโลกยุคความปกติใหม่ หรือ New normal ถือเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องดูในภาพรวมของทั้งโลก ซึ่งมีหลายกลุ่มหลายภูมิภาค บางประเทศก็ยังมีความขัดแย้งกันอยู่ ทำอย่างไรที่จะใช้วิกฤตให้เป็นโอกาส ในฐานะที่ประเทศเรามีทรัพยากรมากพอสมควรในทุกมิติ โดยเฉพาะเรื่องของเกษตรกรรม อาหาร และเครื่องสำอาง ซึ่งเราทำได้ดีทั้งหมด ดังนั้นสินค้าที่คนใช้ทุกวันได้ ถือเป็นสินค้าที่ยั่งยืนจึงต้องคิดค้นผลผลิตใหม่ของธุรกิจต่างๆ ให้มากยิ่งขึ้น รัฐบาลส่งเสริมในเรื่องการวิจัยและนวัตกรรมออกมา วันนี้เราต้องส่งเสริมธุรกิจของเราในนามแบรนด์ไทยไปต่างประเทศ และเนื่องจากโลกทุกวันนี้มีหลายกลุ่มหลายฝ่ายก็ต้องดูในเรื่องของการผลิตและการรับจ้างการผลิต ซึ่งถือเป็นการระบายสินค้าของเราออกไปข้างนอกเพราะบางประเทศบางครั้งก็อยู่กับข้างใดข้างหนึ่ง เราก็ต้องใช้ประโยชน์ตรงนี้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องการพัฒนาทักษะผู้ประกอบการธุรกิจเรื่องของเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเรื่องสำคัญ รัฐบาลจำเป็นต้องส่งเสริม อย่างไรก็ตาม ขอร้องว่าอย่าทิ้งลูกจ้าง พนักงาน ไม่ว่าจะทันสมัยอย่างไร เราก็ต้องพัฒนาลูกจ้างพนักงานของเรา ควบคู่ไปด้วยวันนี้เราอยู่ในยุค 4.0 โลกกำลังก้าวสู่ 5.0 จำเป็นต้องใช้เครื่องจักรที่ทันสมัย แต่การลดคนก็ต้องเกิดความเดือดร้อน เพราะแต่ละผู้ประกอบการ หรือบริษัทมีลูกจ้างจำนวนมาก ถ้าเราใช้เทคโนโลยีใหม่ทั้งหมด ก็ต้องดูว่าเราจะดูแลลูกจ้างพนักงานอย่างไร เพราะเขาเหล่านั้นก็เป็นผู้นำครอบครัวเช่นกัน เรากำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนการเปลี่ยนผ่าน ทำอย่างไรเราจะฝึกคนเหล่านี้ให้ทำงานกับเครื่องจักรได้ จึงขอฝากทุกคนช่วยกันดูแลโดยเฉพาะช่วงวิกฤตโควิด-19
“สิ่งสำคัญคือความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ทุกอย่างจะเป็นพื้นฐานของเศรษฐกิจ ความเข้าใจซึ่งกันและกัน ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกัน จิตสำนึกร่วมกัน ก็จะทำให้ประเทศชาติปลอดภัย ผมขอไม่พูดอย่างอื่นในตรงนี้ เพราะถือเป็นรากฐานของประเทศ หลายอย่างทุกคนก็ทราบดี” นายกฯกล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามขอให้คำนึงถึงคุณภาพ ความไว้วางใจของลูกค้า เพราะเราต้องการให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตสินค้าคุณภาพสูง สิ่งสำคัญที่สุด คือ อัตลักษณ์ความเป็นไทย ทุกอย่างสร้างสตอรี่ได้หมด เพื่อสร้างมูลค่าของสินค้าการมีสตอรี่ของสินค้าจะทำให้สัญลักษณ์ความเป็นไทยโดดเด่นไปสู่สายตาชาวโลก จะทำให้ภาคส่งออก เข้มแข็ง และถ้าหากสามารถดูแลสิ่งเรานี้ได้ก็จะช่วยบรรเทาภาระการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐได้บ้าง สำหรับรางวัลที่ให้วันนี้ยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาและความตั้งใจของทุกคน ทั้งสินค้าบริการ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องถือเป็นส่วนสำคัญต้องในการผลักดันการค้าระหว่างประเทศในเชิงรุก การหาตลาดใหม่ ถือเป็นรายได้ของประเทศที่จะได้รับกลับมา ไม่ว่าจะมีความขัดแย้งใดๆ ก็ตาม ”ถือว่าสิ่งที่ให้ในวันนี้เป็นการที่ทุกคนทำให้ประเทศของเราประเทศของผมและประเทศของพวกเรา และสิ่งที่จะได้รับจากการทำวันดีของทุกคนคือกุศลที่จะทำให้ทุกคนนั้นประกอบการธุรกิจได้เป็นผลสำเร็จ มีความก้าวหน้าอย่างยั่งยืน”
“ถือเป็นการเดินหน้าอย่างมีขั้นตอน กรณีตัวอย่างบริษัทน้ำพริกแม่ประนอม มีลูกมาสานต่อ เป็นการทำงานจากพ่อสู่ลูกสู่หลาน เป็นอนาคตของประเทศไทย และอนาคตไม่ได้สร้างเพียงวันเดียวอยู่แล้ว เป็นการสื่อ ต่อยอด พัฒนาต่อมา ซึ่งรัฐบาลพร้อมส่งเสริมในเรื่องเหล่านี้ เพราะนี่คือประเทศไทยของเรา ฝากทุกคนให้ช่วยกันดูแล ทั้งสังคมและประเทศชาติด้วย วันนี้เราอยู่ท่ามกลางโลกการค้าแบบเสรีและการค้าพหุภาคี จำเป็นจะต้องมีการแข่งขัน หรือเป็นเรื่องการต่างตอบแทน การที่จะให้ใครมาซื้อสินค้าเราโดยที่เราไม่ซื้อของใครเลยมันไม่ได้เป็นเรื่องการแข่งขันระหว่างกันบางอย่าง จึงเป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้วยก็ขอให้เข้าใจ เราต้องคิดใหม่ทำใหม่ทั้งหมดที่ผ่านมาไม่ใช่ว่าไม่ทำแต่อาจจะช้าไปเล็กน้อย
นโยบายของรัฐบาลจะต้องดูสถานการณ์สภาวะทั้งภายนอกและภายในควบคู่กันไป
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในเรื่องสถานการณ์ของโควิด-19 ทุกคนทราบดีว่ามีกระทบต่อเรื่องการค้าการส่งออก หลายคนบอกว่าสถานการณ์ไม่ค่อยดีนัก เพราะรัฐบาลบริหารไม่ดี แต่ถ้ามองในภาพรวมต้องฟังทั้งสองทาง ทุกประเทศกำลังมีปัญหา ดังนั้นการสั่งซื้อสินค้าก็ต้องลดลง เพราะสถานการณ์ของโควิด-19 ซึ่งไม่มีใครต้องการให้เกิดขึ้น แต่ถ้าเราเข้มแข็งพอ ยืนยันจะสู้ให้ได้ เดินหน้าไปด้วยกัน คิดว่าเราจะใช้เวลาเหล่านี้ฟื้นฟูของเราเองด้วย เราต้องช่วยกอบกู้ประเทศชาติให้ได้เร็วยิ่งขึ้น วันนี้ทุกคนต้องยอมรับว่าเราบริหารสถานการณ์โควิด-19 ได้ดีมากในระดับต้นๆ ของโลกและอาเซียน ถือเป็นสิ่งดีที่เกิดขึ้นในประเทศไทย หลายอย่างมาจากนโยบายของรัฐบาลนี้ในการขับเคลื่อนทุกอย่างให้เร็วและก้าวหน้า ซึ่งรัฐบาลทำคนเดียวไม่ไหวต้องอาศัยผู้ประกอบการธุรกิจ ทุกคนคือแรงผลักดันขับเคลื่อนสำคัญให้รัฐบาลทำงานได้จากรายได้ ภาษีของทุกคนกลับมาสู่การใช้ในการบริหารราชการแผ่นดินตลอดทุกรัฐบาลที่ผ่านมา รายได้ของรัฐบาลมาจากการเก็บภาษีอย่างเดียว เมื่อมันหล่นลง รายได้ลดลง แต่ค่าใช้จ่ายมากขึ้น รัฐบาลก็ต้องระมัดระวังอย่างที่สุดที่จะไม่ทำให้เกิดผลกระทบในด้านอื่นด้วย จึงขอความร่วมมือจากทุกคนช่วยกันทำความเข้าใจ และคิดว่าทำอย่างไรให้มีการบริโภคภายในประเทศมากยิ่งขึ้น
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่า เรื่องของความเท่าเทียมทุกคนไม่มีโอกาสที่จะได้เท่าเทียมกัน มีเพียงกฎหมายเท่านั้นที่จะทำให้เกิดความเท่าเทียมกัน และทำให้สังคมสงบสุข เพราะทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายฉบับเดียวกัน ดังนั้น จะต้องทำให้กลไกกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมมันโปร่งใส ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อยู่แล้ว จะเห็นได้ว่ารัฐบาลเร่งแก้ปัญหาทั้งหมด เพราะปัญหาหมักหมมมายาวนาน ก็ต้องแก้ทั้งแก้ด้วยระบบ แก้ด้วยการบริหาร แก้ด้วยการแก้ไขกฎหมาย วันนี้สิ่งที่รัฐบาลพยายามทำ คือ เรื่องของกฎหมายในการอำนวยความสะดวกทางการค้าการลงทุนเพื่อให้ทันต่อสากล วันนี้ได้ผลักดันรับกฎหมายหลายฉบับเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งก็ต้องรอการพิจารณา ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายใหม่ๆ ฉบับใดก็ตาม รวมทั้งกฎหมายออนไลน์ ทุกอย่างก็เพื่อปกป้องทรัพย์สินของทุกคน ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็เป็นเรื่องสำคัญ แต่ขอให้เป็นเวลาอื่นได้หรือไม่ เวลานี้เป็นเวลาที่ทุกคนลำบาก เดือดร้อนโดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้น้อย ลูกจ้างพนักงานซึ่งต้องขอบคุณหลายบริษัทที่ช่วยรัฐบาลและช่วยลูกน้องของตัวเองในการไม่ลดการจ้างงาน รัฐบาลไม่สามารถดูแลได้ทั้งหมดและช่วง 3 เดือนที่ผ่านมารัฐบาลใช้เงินจำนวนมาก ซึ่งก็คงไม่พอ
“วันนี้เป็นช่วงของ New normal รัฐบาลก็ต้องปรับตัว ผมก็ต้องปรับตัวเอง เมื่อโลกเปลี่ยนเราก็ต้องปรับ ถ้าเราไม่ปรับก็จะไม่ทันโลก เรามีการเปลี่ยนแปลงทุกวัน ประเทศไทยไม่ใช่คนไม่เก่ง ผมว่าเก่ง อาจจะเก่งที่สุดก็ได้ แต่ก็ขอให้อยู่ในกรอบของบ้านเมืองทุกอย่างก็จะไปได้หมด รัฐบาลพยายามจะแก้ปัญหาในทุกประเด็นแต่เรื่องของเศรษฐกิจมีความสำคัญ และปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบให้กับทุกคนแต่ขอให้อดทนอีกระยะ ผมคิดว่าจะดีขึ้นในระยะเวลาต่อไป ผมคิดว่าคนไทยเป็นคนเก่งคิดได้ทุกเรื่องก็ขอให้คิดในเรื่องที่เป็นประโยชน์ในช่วงเวลานี้ให้มากที่สุด” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
