นายกฯ มอบรางวัลผู้ประกอบการธุรกิจส่งออกดีเด่น ประจำปี 2563 ขอผู้ประกอบการร่วมฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังวิกฤตโควิด-19 แจงดีขึ้นตามลำดับ จำเป็นเร่งหารายได้เพิ่ม เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่เข้มมาตรการสาธารณสุข ยืนยันไทยมีความพร้อมด้านสาธารณสุข ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก
วันนี้ (25 ส.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานมอบรางวัลผู้ประกอบการธุรกิจส่งออกดีเด่น ประจำปี 2563 หรือ PM EXPORT AWARD 2020 ที่กระทรวงพาณิชย์จัดขึ้น เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ผู้ส่งออก และสร้างโอกาสธุรกิจไทย โดยปีนี้มีผู้ผ่านการพิจารณาได้รับรางวัล 37 รางวัล จาก 34 บริษัท
นายกฯ แสดงความยินดี และชื่นชมบริษัทที่ได้รับรางวัล พร้อมกล่าวว่า เมื่อโลกเปลี่ยนเป็นแบบ new normal ทุกคนก็ต้องปรับตัวตามสถานการณ์โลก สินค้าก็ต้องปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสถานการณ์ ขณะที่รัฐบาลก็มีแนวนโยบายที่ส่งเสริมธุรกิจไทย หรือแบรนด์ไทย ไปยังตลาดโลก พร้อมฝากฝึกทักษะด้านเทคโนโลยี ซึ่งรัฐบาลพยายามส่งเสริมในเรื่องนี้ และขออย่าทิ้งพนักงาน แม้จะมีเทคโนโลยีเข้ามาช่วย ถ้าบ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อยก็เป็นพื้นฐานพัฒนาประเทศ ขณะเดียวกันย้ำว่ารัฐบาลมีการขับเคลื่อนนโยบายส่งออกและฐานการผลิต โดยคำนึงถึงคุณภาพสินค้าเสมอ เน้นอัตลักษณ์ความเป็นไทย เป็นสัญลักษณ์โดดเด่นในตลาดโลก
นายกฯ ยังขอเป็นกำลังใจให้ผู้ประกอบการ ขอพัฒนาธุรกิจ และนี่คือการเดินหน้าธุรกิจ ต่อยอดโดยคนรุ่นใหม่ เช่นเดียวกับประเทศไทย ที่ต้องพัฒนาประเทศไว้ให้ลูกหลาน
พร้อมกันนี้ นายกฯ ยังกล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ถือว่าเป็นประเทศที่ควบคุมการระบาดได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ทั้งนี้ผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจก็หนักหนาพอสมควร ดังนั้นจึงอยากให้ทุกคนได้ร่วมมือกันเดินหน้าฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งรัฐบาลพยายามที่จะแก้ปัญหานี้อย่างต่อเนื่อง โดยอยากขอความร่วมมือจากทุกบริษัทในการเดินธุรกิจแบบพี่จูงน้องร่วมพัฒนาสินค้ากับผู้ประกอบการขนาดเล็ก ซึ่งรัฐบาลยินดีรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกบริษัท เพื่อเป็นการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน คิดให้เป็นประโยชน์เพื่อประเทศ ส่วนการท่องเที่ยวของไทยนั้น มีการส่งเสริมในประเทศ แต่ก็ไม่เพียงพอ ดังนั้นต้องมีการผ่อนคลายมาตรการเรื่องการท่องเที่ยวต่างประเทศเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว แต่คนไทยก็ต้องไม่ตื่นตระหนก ทุกอย่างจะต้องดำเนินการตามมาตรฐานสาธารณสุข ยืนยันไทยมีความพร้อมในทุกมิติ ทั้งการรักษา และติดตาม ไม่เช่นนั้นรายได้ของประเทศก็จะลดลง แต่รัฐบาลจะดำเนินการอย่างระมัดระวัง แต่ที่สำคัญคือ ประชาชนต้องไม่ตื่นตระหนก
