“ประยุทธ์” ระบุแนวคิดเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเดือน ต.ค.เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ขึ้นอยู่กับ ศบศ.พิจารณา ย้ำเศรษฐกิจ-สุขภาพต้องเดินไปคู่กัน
วันนี้ (25 ส.ค) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่โรงแรมสตาร์ คอนเวนชั่น จ.ระยอง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวภายภายหลังการประชุม ครม.สัญจร ถึงแนวคิดการเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ในเดือน ต.ค.ว่า เรื่องนี้ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) ต้องพิจารณาว่าจะมีผลกระทบอะไรหรือไม่ เศรษฐกิจการท่องเที่ยว การรักษาพยาบาลในประะทศ ส่วนนี้เป็นรายได้ของประเทศเราทั้งสิ้น ถึงแม้เราจะมีมาตรการท่องเที่ยวในประเทศ แต่ก็มีคนอยู่ไม่กี่ล้านคนที่ท่องเที่ยว ฉะน้ัน เราจะเอาสิ่งเหล่านี้มารองรับในส่ิงที่เราเคยได้ 20 ล้านคนได้ไหม ถ้าไม่ได้ก็ต้องหามาตรการที่เหมาะสม ประเด็นสำคัญเราต้องมีมาตรการมารองรับ ทุกคนก็ต้องยอมรับ ถ้าหากเราไม่ทำเลยก็จะอยู่ที่เดิม แย่ไปกว่าเดิม ปิดกิจการ ลดการจ้างพนักงาน ด้วยการสร้างความตื่นตระหนกไป สิ่งสำคัญที่สุด ตนยืนยันวันนี้เราสามารถที่จะตรวจสอบคัดกรอง หากมีคนที่ติดเชื้อหลุดลอดเข้ามาเราก็สามารถติดตามได้ เรามีสถานพยาบาลและบุคลากรที่เพียงพอ ตรงนี้เป็นสิ่งที่ต้องคิด 2 ทางเสมอ ไม่อย่างนั้นคนจะเอาเรื่องเศรษฐกิจไปพูดอีกทาง เรื่องสุขภาพไปพูดอีกทางแล้วจะทำอย่างไรที่ 2 ทางจะไปด้วยกัน
นายกฯ กล่าวว่า นี้คือสิ่งที่ต้องฝากสื่อมวลชนไว้ด้วย ไม่อย่างนั้นก็จะกลายเป็นปัญหา แก้อะไรไม่ได้เลยสักอย่าง รัฐบาลก็มีเงินอยู่เท่านี้ เงินกู้ก็มีเท่านี้ วันหน้าก็ต้องใช้หนี้เขาอีก อย่างเรื่องรายได้ของประเทศลดลงจากตัวเลขที่ประมาณการณ์ ก็แน่นอนเพราะมีสถานการณ์โควิด-19 วันนี้ก็เปรียบเทียบข้อมูลของสหรัฐอเมริกา ซึ่งการว่างงานของเขาเยอะขึ้นเป็นล้านคนเหมือนกัน ประเทศอื่นๆ ก็เป็นเหมือนกัน มันเป็นผลกระทบทั้งประเทศ มันมีหลายอย่างก็ดีขึ้น แต่หากเรากลับไปที่เดิมตื่นตระหนก ไม่ผ่อนคลาย ก็จะอยู่ที่เดิม แล้วจะแย่ไปกว่าเดิมไหม แล้วรัฐบาลจะไปหาเงินที่ไหน เพราะภาษีต่างๆ เราไม่สามารถเก็บได้เต็มจำนวนแล้ว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เรื่องปัญหาการว่างงานก็มีคณะกรรมการคัดกรองอยู่ ซี่งมีวิธีจ้างงานหลายรูปแบบด้วยกัน แต่ตนยังให้ข้อมูลไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของการพิจารณางบประมาณต่างๆ ซึ่งมีหลายหลักการด้วยกัน ทั้งคนที่ว่างงานและคนที่จบการศึกษามีจำนวนมาก ฉะนั้น การบริหารคนจำนวนมากจะต้องมีข้อมูลที่ถูกต้องชัดเจนว่าจะทำอย่างไร ต้องมีทั้งคนได้และไม่ได้ จะให้ได้ทุกคนคงไม่มีสตางค์ให้ได้ เราต้องไปดูปริมาณว่ามีเท่าไหร่ที่จะรับได้ในระยะแรก ในเรื่องการแก้ปัญหาโควิด-19 และวันหน้าก็จะทำให้เดือดร้อนลดลง ช่วงนี้เราก็ประมาณการณ์ไว้ 6 เดือนถึง 1 ปี ซึ่งก็จะมีมาตรการเป็นระยะๆ โดยจะมีการเตรียมแผนรองรับในส่วนของมาตรการการเงินการคลัง