ส.ว.ประภาศรี เห็นใจลูกจ้างเดือดร้อนจากพิษโควิด ถูกนายจ้างลดเงินเดือนเพื่อบริษัทอยู่รอด เสนอนำเงินกองทุนประกันสังคมให้ผู้ประกันกู้ยืมโดยไม่คิดดอกเบี้ย แก้ปัญหา"ชักหน้าไม่ถึงหลัง"
นางประภาศรี สุฉันทบุตร สมาชิกวุฒิสภา กรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงินและการคลัง วุฒิสภา เปิดเผยว่า ผู้ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาเศรษฐกิจถดถอยอันเนื่องมาจากโควิดระบาด ซึ่งมีอยู่มากมายหลายกลุ่ม และมีเป็นจำนวนมากนั้น มีคนกลุ่มหนึ่งที่ดูเหมือนรัฐบาลมองข้าม ไม่ได้นึกถึงเลยว่าจะเดือดร้อนและลำบากแค่ไหน นั่นคือลูกจ้างในระบบประกันสังคม ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจมากเพราะรัฐบาลคิดว่า มีกองทุนประกันสังคมคอยดูแลช่วยเหลืออยู่เเล้ว แท้จริงเเล้ว การประกันสังคม ดูเเลเฉพาะลูกจ้างที่ตกงานเท่านั้น แต่ลูกจ้างที่ยังทำงานอยู่ ไม่ได้ถูกเลิกจ้างแม้จะถูกนายจ้างลดเงินเดือนก็ไม่เข้าหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการจ่ายประโยขน์ตอบแทน
นางประภาศรี กล่าวว่า มีสถานประกอบการจำนวนหนึ่งประสบปัญหาทางการเงินจำเป็นต้องลดรายจ่ายด้วยการให้ลูกจ้างลาออกโดยพร้อมจ่ายเงินช่วยเหลือลูกจ้างในฐานะผู้ประกันตน ขณะเดียวกันก็ใช้วิธีลดเงินเดือนลูกจ้างโดยอ้างว่า เพื่อความอยู่รอดของบริษัท เช่น ลดเงินเดือนลง 10 - 20 % เป็นต้น ลูกจ้างก็คิดว่า ยังดีที่มีงานทำแต่รายได้ที่น้อยลงนั้นส่งผลให้ลูกจ้างซึ่งลำบากอยู่เเล้ว ต้องลำบากเพิ่มขึ้น เพราะภาระค่าใช้จ่ายมากมายทั้งของตัวเองและสมาชิกในครอบครัวไม่ได้ลดลงด้วย ลูกจ้างจึงเดือดรเอนกันถ้วนหน้า สภาวะปากกัดตีนถีบ "ชักหน้าไม่ถึงหลัง" คือปัญหาเร่งด่วนที่รัฐบาลโดยกระทรวงแรงงานและสํานักงานประกันสังคมจะต้องหาทางแก้ไข
นางประภาศรี เสนอว่า สำนักงานประกันสังคมอาจนำเงินจากกองทุนประกันสังคมที่ปกติลูกจ้างจะถูกหักเงินเดือนเข้ากองทุนอยู่แล้วในฐานะผู้ประกันตน สมทบกับเงินที่รัฐบาลและนายจ้างจ่ายให้และสะสมไว้จำนวนหนึ่งมาให้ลูกจ้างยืมโดยไม่คิดดอกเบี้ยเพื่อใช้จ่ายในการดำรงชีวิต เพราะเป็นเงินของผู้ประกันตนเอง
"กองทุนประกันสังคมสามารถจัดการปัญหาให้ผู้ประกันตนได้เเก้ปัญหาตนเองในช่วงวิกฤตินี้ได้ ขอเสนอให้สำนักงานประกันสังคมบริหารจัดการกับเงินกองทุนประกันสังคมให้เกิดประโยชน์กับคนงานในภาวะที่ลูกจ้างกำลังลำบากและไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร"นางประภาศรี กล่าว