“อนุชา” รมต.สำนักนายกฯ ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายให้ สนง.ราชบัณฑิตยสภา หวังให้เป็นหน่วยงานราชการดิจิทัลที่ทันสมัย ปชช.เข้าถึงบริการสะดวกยิ่งขึ้น พร้อมเน้นสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์
วันนี้ (21 ส.ค. 63) เมื่อเวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 4 กองวิทยาศาสตร์ สำนักงานราชบัณฑิตยสภา สนามเสือป่า เขตดุสิต กทม. นายอนุชา นาคาศัย รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมประชุมกับคณะอนุกรรมการใน อ.ก.พ. สำนักงานราชบัณฑิตยสภา พร้อมตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายให้สำนักงานราชบัณฑิตยสภา
โดย นายอนุชา กล่าวมอบนโยบายตอนหนึ่ง ว่า เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น ฝากให้ผู้บริหารดำเนินการวางแผนเตรียมความพร้อมในเรื่องโครงสร้างอัตรากำลังให้เพียงพอ รวมทั้งวางระบบฐานข้อมูลเทคโนโลยีสารสนเทศต่างๆ เพื่อให้ที่ทำการสำนักงานราชบัณฑิตยสภาทั้ง 2 แห่งสามารถทำงานเชื่อมโยงประสานงานสอดคล้องกันได้อย่างมีเอกภาพ
“นับว่าเป็นโอกาสอันดีที่ราชบัณฑิตยสภาจะได้เปลี่ยนภาพลักษณ์ขององค์กรใหม่ให้เป็นหน่วยงานราชการดิจิทัลที่ทันสมัย เปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคราชการ 4.0 มุ่งเน้นประโยชน์การอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนเป็นสำคัญ โดยอาจมีแอปพลิเคชันให้ประชาชนดาวน์โหลดค้นหาพิกัดจุดให้บริการของราชบัณฑิตยสภาที่ต้องการติดต่อทั้ง 2 แห่ง และนำทางไปที่ตั้งหน่วยงาน มีคู่มือในการเข้าใช้บริการ รวมถึงประเมินความพึงพอใจหลังเข้ารับบริการ เป็นการสนองนโยบายของรัฐบาล” นานอนุชา ระบุ
โอกาสนี้ นายอนุชา ยังได้ตรวจเยี่ยม อาคารเรือนเจ้าจอมมารดา ที่มีสภาพทรุดโทรมอย่างมาก พร้อมเปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 16 มิ.ย.63 เห็นชอบตามความเห็นของสำนักงบประมาณให้อนุมัติค่าปรับปรุงอาคารเรือนเจ้าจอมมารดาเลื่อนให้เป็นหอประวัติราชบัณฑิตยสภา คาดว่าจะลงนามในสัญญาได้ก่อนวันที่ 15 ก.ย. 63 นี้
รมต.สำนักนายกฯ ยังได้ให้นโยบายเพิ่มเตติมอีกว่า สำนักงานราชบัณฑิตยสภาทำหน้าที่เป็นองค์กรหลักในการอนุรักษ์และส่งเสริมการใช้ภาษาไทยมาโดยตลอด มีการจัดกิจกรรมทั้งการแข่งขันทักษะการใช้ภาษาไทยของเยาวชนทั่วประเทศ การมอบรางวัลผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่นให้แก่นักเรียน ดารานักแสดง ผู้จัดรายการโทรทัศน์ ถือว่าเป็นโครงการที่ดีในด้านการสร้างความสามารถการแข่งขันพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพคนอีกทางหนึ่ง ปัจจุบันเป็นยุคดิจิทัลที่มีการแข่งขันกันสูง จึงอยากให้มีการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายผลงานทางวิชาการที่ราชบัณฑิตยสภาจัดพิมพ์ทางออนไลน์ด้วย รวมทั้งการผลิตหนังสือ e-book เพื่อลดการใช้กระดาษ เพิ่มความสะดวก รวดเร็ว รองรับความต้องการของประชาชน อีกทั้งยังเป็นการปรับตัวเข้าสู่ยุคราชการ 4.0 ให้เป็นหน่วยงานของรัฐยุคดิจิทัลที่มุ่งเน้นประโยชน์การอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนเป็นสำคัญ และพัฒนาให้เป็นองค์กรบริการที่มีความทันสมัย
“อยากให้ราชบัณฑิตยสภาทำหน้าที่เชิดชูยกย่องโดยการส่งเสริมเผยแพร่ประวัติและเกียรติคุณของบุคคล ซึ่งถือเป็นปูชนียบุคคลของชาติ ซึ่งนอกจากจะเป็นการยกย่องเชิดชูแล้วยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ได้เห็นแบบอย่างที่ดีงามเป็นแนวคิดในการดำเนินชีวิตด้วย รวมทั้งให้เป็นแหล่งรวบรวมความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องและเป็นจริงเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์และพระราชกรณียกิจ และเพิ่มช่องทางต่างๆ ในการให้บริการทางวิชาการแก่ประชาชนเพื่อให้สามารถเข้าถึงบริการสะดวกยิ่งขึ้น” นายอนุชา ระบุ