xs
xsm
sm
md
lg

“รสนา” จี้ ก.อ.ทบทวนมติ ชี้ไม่สอบวินัย “เนตร” ละเว้นหน้าที่ ฆ่าตัดตอนสอบสวนซ้ำคดี “บอส วรยุทธ”

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อดีต ส.ว.กทม. ตั้งคำถาม ก.อ.ไม่ตั้งอนุ กก.สอบวินัย “เนตร นาคสุข” อาจเข้าข่ายละเว้นหน้าที่ ผิด ม.157 หรือไม่ ดักใช้วิธีงดออกเสียงไม่ได้ ฉะฆ่าตัดตอนสอบสวนช่วยคดี “บอส” ซ้ำสอง ยก พ.ร.บ.ระเบียบ ขรก.- ข้อ กม.ชี้ชัดต้องตั้งสอบ จี้ทบทวนมติ

วันนี้ (20 ส.ค.) น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีต ส.ว.กรุงเทพมหานคร ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว “รสนา โตสิตระกูล” ในหัวข้อ “ก.อ ไม่สอบวินัย เนตร นาคสุข อาจเข้าข่ายละเว้นหน้าที่ ผิด ม.157 หรือไม่” มีเนื้อหาระบุว่า การที่ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) นายอรรถพล ใหญ่สว่าง ได้ออกแถลงการณ์ 6 ข้อ ระบุถึงเหตุผลที่แสดงให้เห็นชัดแจ้งว่า นายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด มีพฤติการณ์ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือปราศจากอำนาจหน้าที่ในการสั่งไม่ฟ้องคดี นายวรยุทธ อยู่วิทยา ถึงขั้นประธานก.อเป็นผู้เสนอให้ก.อแต่งตั้งคณะอนุกรรมการสอบสวนนายเนตรเอง

การที่คณะกรรมการอัยการ 14 คน จาก 15 คน (ไม่รวม นายเนตร นาคสุข ผู้ถูกพิจารณา) ลงมติไม่ตั้งคณะอนุกรรมการสอบวินัย นายเนตร นาคสุข รอง อสส.ด้วยการงดออกเสียงเป็นส่วนใหญ่ จำนวน 9 คน ต่อผู้ที่ลงมติเห็นชอบให้ตั้งกรรมการสอบวินัยจำนวน 5 คนนั้น ผู้ที่ใช้วิธีการงดออกเสียง แต่มีผลเป็นการไม่เห็นด้วยโดยไม่ต้องบอกเหตุผลน่าจะไม่สามารถกระทำได้ เนื่องจากองค์กรอัยการเป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญ จึงต้องรับผิดชอบต่อสาธารณะ คณะกรรมการอัยการเป็นคณะกรรมการที่ต้องวินิจฉัยในเรื่องการดำเนินการทางวินัยข้าราชการอัยการ จึงเป็นอำนาจที่ต้องวินิจฉัยผิดถูกด้วย ดังนั้น การงดออกเสียงอันเกี่ยวด้วยวินัย เป็นสิ่งที่ไม่อาจกระทำได้ ซึ่งเป็นหลักกฎหมายทั่วไป ใช่หรือไม่?

การลงมติไม่ตั้งกรรมการสอบวินัยของ ก.อ ในครั้งนี้ ส่งผลเสียหายต่อความเชื่อมั่นในระบบยุติธรรมโดยรวม การที่รองอัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้อง นายวรยุทธ อยู่วิทยา ก็ทำให้สาธารณชนเห็นว่าเป็นกระบวนการสมคบคิดฆ่าตัดตอนคดีของนายวรยุทธ อยู่วิทยาโดยองค์กรอัยการอยู่แล้ว ยิ่ง ก.อ มางดออกเสียงเพื่อไม่ตั้งกรรมการสอบวินัยผู้ที่ถูกประธาน ก.อ กล่าวหาว่าเข้าข่ายการกระทำผิดต่ออำนาจหน้าที่ ถ้าไม่ตั้งกรรมการสอบก็จะกลายเป็นว่าคณะกรรมการอัยการฆ่าตัดตอนการสอบสวนกรณีช่วยเหลือคดีของนายวรยุทธ อยู่วิทยา ซ้ำสอง นอกจากจะทำให้ประชาชนยิ่งเสื่อมศรัทธาในองค์กรอัยการแล้ว น่าจะเข้าข่ายเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของ ก.อ ด้วย ใช่หรือไม่ ?

ในเมื่อประธาน ก.อ ก็กล่าวหาว่า รอง อสส.ทำผิดวินัย ทำผิดระเบียบ ทำผิดหน้าที่ ไม่มีอำนาจสั่งสำนวนคดีที่จบไปแล้ว ทั้งการสั่งไม่ฟ้องโดยพิจารณาหลักฐานจากรายงาน กมธ.สนช. ที่อยู่นอกสำนวนนั้นที่ขณะนี้ข้อเท็จจริงชัดเจนขึ้นว่า มีขบวนการบิดข้อมูลเรื่องความเร็วของรถที่นายวรยุทธขับให้อยู่ในความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งล้วนเป็นความเท็จ ยิ่งทำให้สังคมเห็นว่าการสั่งไม่ฟ้องคดีของรอง อสส.เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย จึงยิ่งต้องดำเนินการตั้งกรรมการขึ้นมาสอบวินัยรอง อสส. ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. ๒๕๕๓ มาตรา ๓๐(๘) มาตรา ๗๔ และมาตรา ๘๒ ดังที่บัญญัติไว้ว่า

มาตรา ๓๐ นอกจากอํานาจและหน้าที่ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้และกฎหมายอื่น ให้ ก.อ. มีอำนาจและหน้าที่ ดังต่อไปนี้

(๘) พิจารณาเกี่ยวกับการดําเนินการทางวินัยข้าราชการฝ่ายอัยการ และการสั่งให้ข้าราชการ ฝ่ายอัยการออกจากราชการตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้

มาตรา ๗๔ ภายใต้บังคับมาตรา ๘๒ เมื่อข้าราชการอัยการผู้ใดถูกกล่าวหาหรือมีกรณีเป็นที่สงสัยว่ากระทําผิดวินัย ผู้บังคับบัญชาต้องดําเนินการสอบสวนชั้นต้นโดยมิชักช้า ผู้บังคับบัญชาระดับใดมีอํานาจดําเนินการสอบสวนชั้นต้นข้าราชการอัยการระดับใด รวมตลอดท้ังวิธีการสอบสวนชั้นต้น ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.อ. กําหนด

มาตรา ๘๒ การดําเนินการทางวินัยและสั่งลงโทษทางวินัยสําหรับอัยการสูงสุด และ รองอัยการสูงสุด ให้เป็นอํานาจและหน้าที่ของ ก.อ. ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.อ. กําหนด

ดังนั้น การไม่ตั้งอนุกรรมการเพื่อสอบข้อเท็จจริงและวินัย จะเข้าข่ายเป็นการละเลย ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของ ก.อ หรือไม่ !?

ดิฉันจึงขอเรียกร้องให้ก.อ โปรดทบทวนมติอีกครั้ง ถ้า ก.อ ไม่ดำเนินการตั้งกรรมการสอบสวน ก็อาจเป็นการกระทำผิดฐานละเว้นไม่ปฏิบัติหน้าที่ เข้าข่ายการกระทำผิดตาม ป.วิอาญามาตรา 157 ใช่หรือไม่



น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีต ส.ว.กรุงเทพมหานคร (ภาพจากแฟ้ม)

นายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด (ภาพจากแฟ้ม)

 นายอรรถพล ใหญ่สว่าง ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) (ภาพจากแฟ้ม)


กำลังโหลดความคิดเห็น