กมธ.ตำรวจ สภาฯ ร่วมแก้ไขปัญหายาเสพติด ปัดฝุ่นโครงการ” ชุมชนสีขาว” มอบ”ตั๊น จิตภัสร์ นำทีมผุดเครือข่ายพลังเยาวชนต้านภัยยานรก ลุยติดอาวุธทางปัญญาเด็ก รู้เท่าทัน สกั้นกั้น สร้างโอกาสและพัฒนาคุณภาพอนาคตของชาติ
น.ส.จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า จากสภาวการณ์การแพร่ระบาดยาเสพติดในสังคมไทยปัจจุบัน ที่ปรากฎเป็นข่าวตามสื่อสารมวลชนแขนงต่างๆ พบว่าการค้ายาเสพติดยังเป็นปัญหาเพิ่มมากขึ้น ที่สำคัญมีการปรับเปลี่ยนวิธีการลักลอบขนยาเสพติด โดยใช้รูปแบบการขนส่งผ่านทางผู้ประกอบการรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์มากขึ้น และมีราคาถูกลงมากเหลือเม็ดละ30-40 บาท เด็กและเยาวชนไทยชุมชนต่างๆ สุ่มเสี่ยงอย่างมากที่จะตกเป็นทาสยาเสพติด เพิ่มมากยิ่ง
แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เข้มงวดกวดขัน สกัดกั้นและสืบสวนสอบสวน จนสามารถจับกุมผู้ลักลอบขนส่งยาเสพติดมาอย่างต่อเนื่อง จากสถิติในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีผลการจับกุมสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติดทางพัสดุภัณฑ์และไปรษณีย์ได้ถึง 267 คดี จับกุมผู้ต้องหาได้กว่า 200คน เป็นยาเสพติดชนิด สารสังเคราะห์ประกอบด้วยเมทแอมฟีตะมีนผสมกับกาเฟอีนหรือยาบ้า ถึง 1,700,000 เม็ด โดยเฉพาะช่วงที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 พบว่าการกระทำความผิดในรูปแบบดังกล่าว มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มมากขึ้น
น.ส.จิตภัสร์ กล่าวต่อว่า ประธานคณะ กมธ.ตำรวจ สภาฯ นายนิโรจ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ประธาน กมธ.ตำรวจ สภาฯ เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาดังกล่าว เห็นควรให้กมธ.ตำรวจ ได้มีบทบาทช่วยงานของเจ้าหน้าที่รัฐลดการแพร่ระบาดยาเสพติดในชุมชน สถานศึกษา และร่วมปกป้องและเพิ่มโอกาสให้แก่เด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นอนาคตของชาติในการพัฒนาประเทศชาติ จึงมีแนวคิดการทำงานในเชิงรุก เพื่อมีกมธ.ตำรวจ มีส่วนร่วมแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชนทั้งในพื้นที่ กทม. ปริมณฑลและต่างจังหวัด จึงมอบหมายให้ตน รับผิดชอบการสานต่อโครงการ “ชุมชนสีขาว”ที่เคยดำเนินการมาตั้งแต่ ปี 2544 โดยจะให้มีการปรับกระบวนการทำงานช่วยงานด้านมวลชนและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับสถาบันครอบครัว ชุมชน และสังคม เพื่อลดปัญหายาเสพติดที่เกิดขึ้นในชุมชนให้ลดลงและหมดไปได้ในที่สุด
โครงการนี้จะมีการจัดฝึกอบรม เพิ่มทักษะและให้ความรู้ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันภัยร้ายจากยาเสพติดให้เหล่าเยาวชนและนักเรียนให้ได้รับรู้ถึงปัญหา ผลกระทบและพิษภัยของยาเสพติด รวมทั้งสร้างเครือข่ายนักเรียนสายข่าวชุมชน เพื่อแจ้งเบาะแสการลักลอบค้ายาเสพติด และช่วยควบคุมลดแพร่ระบาดและการขยายตัวของขบวนการค้ายาเสพติด ทั้งในชุมชน และสถานศึกษา ซึ่งจะช่วยลดปัญหาอาชญากรรมและปัญหาสังคม และปัญหาเศรษฐกิจอื่นๆที่จะตามมา รวมตลอดถึงความมั่นคงของชาติอีกด้วย เมื่อชุมชนเข็มแข็ง ปลอดยาเสพติด จะเป็นการเพิ่มโอกาสให้แก่เด็กและเยาวชนไทยได้พัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติต่อไป