นายกรัฐมนตรี ปลุก 67 ล้านคนไทย สำนึกแผ่นดินเกิด ร่วมการทำความดีด้วยใจ ปกป้อง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สร้างชาติสงบสุข เตือนต้องรู้สิ่งไหนควรไม่ควร ยืนยันรัฐบาลพยายามทำเต็มที่อย่างเป็นธรรม บอกไม่ปิดกั้นความคิดใคร
วันนี้ (11 ส.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวตอนหนึ่งระหว่างเป็นประธานในการจัดกิจกรรมจิตอาสา “ปันสุข ปลูกรัก” ว่าวันนี้เป็นวันที่มีความสุขที่พวกเราได้มาเจอเด็กๆ ซึ่งเป็นอนาคตของประเทศชาติ และได้รับฟังคำมั่นสัญญาว่าจะเป็นเด็กดี จะทำหน้าที่การเรียนของตัวเองให้ดียิ่งขึ้นเพื่อไปสู่อนาคตในวันข้างหน้าสิ่งสำคัญที่สุดที่เป็นห่วงคือเรื่องการศึกษา เราจำเป็นต้องมีการปรับวิธีการเรียนการสอนให้มากขึ้น ทันต่อสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงขณะเดียวกันต้องไม่ลืมสิ่งที่ผ่านมาแล้ว หลายคนอาจเจริญเติบโตในรุ่นใหม่ไม่เข้าใจความเป็นมาพื้นฐานประเทศไทย เพราะฉะนั้น ฝากครูผู้ปกครองและผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดช่วยกันสร้างการเรียนรู้สิ่งเหล่านี้ และที่มาวันนี้เพื่อเป็นการยืนยันว่าเราจะทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดเพื่อให้พวกเรามีอนาคตที่ดีงาม มีอาชีพที่ดีในอนาคตเพราะทุกคนถือว่าอยู่ในกลุ่มเปราะบางพอสมควร
นายกฯ กล่าวว่า ขอให้เชื่อมั่นว่าเราทุกคนเป็นครอบครัวเดียวกัน และขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุกคนในการดูแลเด็กๆ ขณะเดียวกัน ตนได้คุยกับรองนายกฯ และรัฐมนตรี ว่าจากนี้ไปขอให้ทำงานในลักษณะทั่วถึง ต่างกระทรวงก็ต้องช่วยกัน แม้งบประมาณจะมีไม่มาก ถ้าหลายกระทรวงร่วมกันสนับสนุนกิจกรรมให้ต่อเนื่องเชื่อมโยง ก็จะทำให้เกิดพลังการขับเคลื่อน สิ่งสำคัญสุดคือเรื่องสังคมของเราที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงไปตามวัฏจักรกลไกโลก แต่ขออย่าลืมความเป็นไทย ซึ่งเป็นอัตลักษณ์ที่ดีงาม ไม่ว่าจะเป็นทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม อาหารการกิน และรอยยิ้ม ตนคิดว่าเวลานี้เป็นช่วงสำคัญโดยเฉพาะช่วงแก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิด-19 ยังไม่รู้ว่าจะอีกนานเท่าไหร่ แต่เราจะทำอย่างเต็มที่ให้กับทุกคนที่เป็นคนไทยทั้งหมด 67 ล้านคน เรามีความแตกต่างกันอยู่ในเรื่องความเป็นอยู่ สิ่งต่างๆ เหล่านี้รัฐบาลจะต้องพัฒนาถือเป็นนโยบายของรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัย หรือสุขภาพที่ดี แต่ต้องเป็นความร่วมมือจากผู้ให้และผู้รับ ต้องขับเคลื่อนไปด้วยกันหน้าที่สำคัญที่สุดของเด็กๆ คือการเรียน เพื่อวันหน้าช่วยกันพัฒนาประเทศไปในทิศทางที่ถูกต้องในสิ่งที่ควรจะเป็น โดยไม่ลืมความเป็นไทยอัตลักษณ์ความเป็นไทยเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมไปทั่วโลก ต่างประเทศอยากมา แต่อยากเห็นความสงบเรียบร้อยของเรา และความปลอดภัยด้านสุขภาพ ประเทศไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามกว่าที่อื่นในโลก เราทำอะไรก็จะได้อย่างนั้นกลับมาเรายิ้มให้เขายิ้มกลับ เราดีต่อเขาก็ดีตอบ
“สิ่งที่ไม่ควรบังคับกัน คือ การทำความดีเพื่อชาติศาสนา พระมหากษัตริย์ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่อยู่ในหัวใจคนไทยทุกคน รัฐบาลได้พยายามอย่างเต็มที่ดูแลในการดูแลตอบสนองความต้องการของทุกคนให้ได้โดยเร็วที่สุด หลายอย่างได้ไปแล้ว หลายอย่างกำลังจะได้ และหลายอย่างกำลังจะได้ในอนาคต ซึ่งต้องเข้าใจพื้นฐานหลักคิดว่าเป็นอย่างไรเพื่อสอดประสานไปด้วยกันรัฐบาลทำฝ่ายเดียวไม่ได้อีกฝ่ายก็ต้องร่วมมือกันในสิ่งที่ควรจะร่วมมือ เรื่องที่มีปัญหาก็เสนอมารัฐบาลพร้อมที่จะดูแลแก้ไขปรับปรุงให้ตรงความต้องการ วันนี้อยากให้ประเทศชาติสงบสุขที่สุด มีความมั่นคง ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ดูแลผู้มีรายได้น้อยอย่างที่เรียกว่าดูแลความเป็นธรรมให้กับทุกคน สิ่งที่เราทำวันนี้เพื่ออนาคตให้ทุกคนเข้าถึงโอกาสไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานหรือสถานที่ทำงาน ทุกคนต้องปรับตัวเองพัฒนาเรียนรู้ตรงความต้องการของประเทศก็จะมีงานทำแน่นอน ถ้าเรียนไม่ตรงก็จะลำบาก ขอขอบคุณมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นตัวอย่างที่ดีในการทำงาน และให้ความร่วมมือมาโดยตลอด ไปบังคับใครไม่ได้เพราะเป็นส่วนที่มาจากใจของทุกคน ทุกอย่างต้องทำจากหัวใจ ทำความดีด้วยหัวใจ ไม่ต้องให้ใครบังคับเราคือคนไทย เราเป็นคนไทยอยู่ในพื้นแผ่นดินไทยที่เรารักหวงแหน มีบรรพบุรุษ มีสถาบันที่สร้างให้พวกเรา ดังนั้น เราจะต้องสืบสานต่อไปในอนาคต จึงขอฝากข้าราชการ พลเรือน ตำรวจทหารทุกท่าน ต้องช่วยกันทำให้เกิดชีวิตใหม่ ที่มีความสุขในสถานการณ์ที่เรียกว่า New Nomal ให้ได้ สิ่งใดที่ไม่เกิดประโยชน์ก็รู้อยู่แล้วอะไรควรไม่ควร ขอให้ทุกคนนำไปสู่การปฏิบัติด้วย” นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวว่า วันนี้โอกาสนี้สำคัญเพราะเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เป็นโอกาสสำคัญที่จะทำถวายพระองค์ท่าน ซึ่งพระองค์ท่านทำมามากตลอดพระชนม์ชีพที่ผ่านมา พระองค์ท่านทำให้พวกเราไว้หลายอย่าง บางคนอาจจะเกิดไม่ทัน โตไม่ทัน แต่ก็ต้องศึกษาดู นั่นคือการปรับความคิดของเราว่าจะทำอะไรในวันข้างหน้า แต่อย่างไรก็เป็นหน้าที่รัฐบาลอยู่แล้ว ทุกรัฐบาลต้องทำสุด แต่ว่าจะทำได้มากน้อย รัฐบาลนี้ยืนยันจะทำให้เต็มที่ในทุกมิติทุกเรื่อง ปัญหาของเรามีเยอะแต่หลายๆ ปัญหาก็ไม่ควรจะเกิดขึ้น วันนี้ถ้าใครที่รักประเทศไทยและสำนึกในแผ่นดินที่เกิด ที่อยู่อาศัยทุกวันนี้ เราต้องทำเพื่อแผ่นดินนี้ที่บรรพบุรุษของเราได้พลีเลือดพลีเนื้อสละชีวิตมายาวนานเพื่อรักษาแผ่นดินผืนนี้ไว้ให้เรา
นายกฯ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับว่าเราจะรักษาและทนุบำรุงอย่างไร เหมือนกับเราปลุกต้นไม้ให้เจริญเติบโตใส่ปุ๋ยอะไรต่างๆ เช่นเดียวกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้การศึกษาที่ดีนั่นคือการปลุกต้นไม้แผ่ร่มเงา ครอบคุมทุกพื้นที่ประเทศไทย เราต้องช่วยกันทำความดีเพื่อแผ่นดินทำด้วยทำด้วยหัวใจรู้จักเผื่อแผ่แบ่งปันให้กำลังใจซึ่งกันและกันหากเราติอย่างเดียว ไม่มีให้กำลังใจกันเลย บางทีก็ไม่เกิดอะไรขึ้นมาได้ ทุกอย่างจะหายไปในอากาศหมด ดังนั้น ขอให้ทุกคนช่วยกันฝากถึงคนไทยถึง 67 ล้านคน
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เดินมาพูดคุยทักทายกับนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ชั้นปีที่ 2 ที่มาร่วมกิจกรรมโดยได้ฝากว่าให้ไปบอกกับเพื่อนๆ และทำความเข้าใจว่านายกรัฐมนตรีได้ทำอะไรไปบ้าง และอยากให้ทุกคนร่วมมือกันทำงาน โดยยืนยันว่าตนเองไม่ได้ปิดกั้นความคิดของใคร ขณะเดียวกัน การเปลี่ยนแปลงบางอย่างจะเปลี่ยนทีเดียวเลยคงไม่ได้