“แรมโบ้” ยืนยันนายกฯ ไม่เคยคุกคามนิสิต นักศึกษา ในการเคลื่อนไหวทางการเมือง พร้อมเปิดเวทีรับฟังจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ขอฝ่ายค้านฟังนายกฯบ้างไม่ใช่ค้านอย่างเดียว
วันนี้ (5 ส.ค.) รายงานข่าวจ้งว่า นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย และ นายชุมสาย ศรียาภัย รองโฆษกพรรคเพื่อไทย เข้ายื่นจดหมายเปิดผนึกของ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทยถึงนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หลังได้รับเรื่องร้องเรียนการคุกคามนิสิต นักศึกษาที่เข้าร่วมการชุมนุม โดยเรียกร้องให้รัฐบาลเคารพและคุ้มครองการใช้สิทธิเสรีภาพของประชาชนและให้ดูแลความปลอดภัยนั้น
นายสุภรณ์ ระบุว่า ที่ผ่านมา นายกฯและรัฐบาล หน่วยงานด้านความมั่นคงได้ให้สิทธิเสรีภาพกับนิสิต นักศึกษาในการชุมนุมและเคลื่อนไหวทางการเมืองมาโดยตลอด เพียงแต่นายกฯย้ำตลอดเวลาว่าขอให้เคลื่อนไหวภายใต้กรอบของกฎหมาย ต้องอย่าทำให้ประชาชนทั่วไปเดือดร้อนหรือได้รับผลกระทบจากการชุมนุม ซึ่งการชุมนุมเคลื่อนไหวต่างๆ ของนิสิต นักศึกษาก็เป็นไปได้ด้วยดี ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นนั้น ก็เพราะว่านายกฯ และ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายความมั่นคงดูแลความปลอดภัยของกลุ่มผู้ชุมนุมอย่างดีที่สุด อย่าให้มีมือที่สามเข้ามาก่อความวุ่นวายจนเกิดเหตุการณ์รุนแรงในการชุมนุม
ขณะเดียวกัน เรื่องการชุมนุม นายกฯยังบอกว่าเป็นห่วงเด็กๆ นศ.จึงได้ให้แนวทางเปิดเวทีรับฟังความเห็นให้มากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ โดยรูปแบบก็จะเป็นการเปิดเวทีพูดคุยเพื่อพบปะหารือกัน โดยเวทีดังกล่าวจะมีขึ้นในเดือนนี้
“นี่ก็เป็นการแสดงให้เห็นถึงความจริงใจของนายกฯและรัฐบาลถึงความห่วงใยที่มีต่อนิสิต นักศึกษา จึงได้เปิดเวทีนี้ขึ้น และที่ผ่านมานายกฯก็ไม่เคยไปคุกคามการชุมนุมของนิสิต นักศึกษาเลย แต่กลับเป็นห่วงมากกว่าและสั่งการให้ดูแลความปลอดภัย
ดังนั้น จึงอยากให้นิสิต นักศึกษาใช้ช่องทางแก้ไขปัญหาตามกระบวนการที่มีอยู่ คือการเสนอข้อคิดเห็นต่างๆผ่านเวทีของรัฐบาล หรือเสนอมายังรัฐบาลโดยตรง ส่วนข้อเสนอต่างๆ โดยเฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปตามช่องทางของรัฐสภาที่ขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่ และนายกฯเห็นด้วยกับเรื่องนี้ ไม่ได้ปิดกั้นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งก็ต้องใช้เวลาให้กับกระบวนการขั้นตอนในระบบรัฐสภา
"พรรคฝ่ายค้านก็ควรเปิดหู เปิดตารับฟังความคิดเห็นของนายกฯและรัฐบาลบ้าง ไม่ใช่สักแต่จะคัดค้านอย่างเดียว ควรหาทางออกร่วมกันให้กับบ้านเมือง ควรหยุดเล่นการเมืองเพื่อเอาดีใส่ตัวได้แล้ว ประเทศชาติประชาชนเป็นของทุกคนที่ต้องรับผิดชอบร่วมกัน นายกฯยินดีเปิดฟังความเห็นทุกฝ่าย แต่ต้องจริงใจและบริสุทธิ์ใจ ฝ่ายค้านอย่าแอบแฝงหรือซุกซ่อนพกมีดแหลมไว้ข้างหลังคอยแอบทิ่มแทงนายกฯและรัฐบาลตลอดเวลา ถ้ามีพฤติกรรมเช่นนี้ถือว่า เล่นการเมืองนอกกติกา ไม่สมควรอย่างยิ่ง ทุกอย่างต้องหันหน้ามาพูดคุยหาทางออกให้ประเทศร่วมกันอย่างจริงใจ ในยามที่ประเทศมีวิกฤตโควิดและส่งผลกระทบเศรษฐกิจทั่วโลกเช่นนี้
“ผมจึงต้องย้ำอีกครั้ง ว่า ชาติบ้านเมืองเป็นของเราทุกคน ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่งจึงต้องขอร้องว่า ให้หยุดเล่นการเมืองนอกกติกา หยุดวาทกรรมที่ทำลาย หยุดเอาประเทศชาติประชาชนมาเป็นเครื่องมือทางการเมืองจนประเทศชาติเสียหายย่อยยับ หยุดเป็นอีแอบยุยงปลุกปั่นให้มีการเคลื่อนไหวบนถนน หยุดการเคลื่อนไหวสนับสนุนล้มล้างสถาบันเบื้องสูง สิ่งต่างๆเหล่านี้ที่ตนขอร้องให้หยุดเสียทีเถอะ ถ้าหยุดได้จะเป็นสิ่งที่วิเศษและประเสริฐที่สุด จะทำให้ประเทศของเราก้าวสู่สังคมสันติสุขมีความสามัคคีปรองดองก้าวข้ามความขัดแย้งได้อย่างแน่นอน พรรคการเมืองหรือนักการเมืองทุกคนทุกพรรค ควรเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเยาวชนและทุกคนในสังคม”