“เชาว์” แนะ “บิ๊กตู่” สั่งโอนสำนวนคดี “จารุชาติ” พยานปากเอกคดี “บอส อยู่วิทยา” ให้ดีเอสไอทำแทนตำรวจ เหตุมีส่วนได้เสีย-ความน่าเชื่อถือติดลบ
วันนี้ (3 ส.ค.) นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงคดีการตายของนายจารุชาติ มาดทอง พยานปากสำคัญในคดี บอส อยู่วิทยา ว่าคดีนี้เต็มไปด้วยข้อสงสัยหลังนายจารุชาติเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ แต่สังคมเชื่อว่าน่าจะเป็นการตายที่ผิดธรรมชาติ หรือเรียกง่ายๆ ว่าอาจมีการฆ่าตัดตอนในทางคดี เพราะเกรงว่าหากถูกรีดหนักๆ พยานอาจเปลี่ยนแปลงคำให้การได้ ขณะนี้นายกรัฐมนตรีก็มีการสั่งอายัดศพเพื่อให้มีการชันสูตรพลิกศพสืบหน้าการเสียชีวิตอย่างละเอียดรอบคอบ แต่ทำแค่นี้ตนว่ายังไม่พอ เรื่องนี้ควรมีการส่งไม้ต่อให้ดีเอสไอเป็นผู้รับผิดชอบแทนตำรวจ เนื่องจากขณะนี้ถือว่าตำรวจกลายเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพราะผู้เสียชีวิตเป็นพยานปากเอกที่ทำให้เกิดการพลิคดีบอส อยู่วิทยา เปลี่ยนจากฟ้องเป็นไม่ฟ้อง ไม่ว่าผลสรุปของคดีจะทำอย่างเที่ยงตรงเพียงใด แต่ความน่าเชื่อถือที่ติดลบจะทำให้เปิดปัญหาคลางแคลงใจอย่างแน่นอน
“ทางที่ดีที่สุดควรโอนคดีนี้ไปให้ดีเอสไอสอบสวนต่อ เพราะถือว่าเป็นองค์กรที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับคดี แตกต่างจากตำรวจที่กำลังตกเป็นจำเลยของสังคมอยู่ในเวลานี้ การสอบสวนเพื่อค้นหาสาเหตุการตายของนายจารุชาติอยู่ในสายตาของประชาชนที่ติดตามอย่างใกล้ชิด ต้องทำอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งจะเป็นอีกหนทางหนึ่งในการช่วยรักษาระบบยุติธรรมตั้งต้นให้ดำรงอยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี ผมจึงขอฝากถึงท่านนายกรัฐมนตรีว่าเมื่อท่านก็มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเสียชีวิตของนายจารุชาติ เอื้อมมือเข้ามาสั่งการให้มีการอายัดศพเพื่อชันสูตรกันใหม่แล้ว ขอให้ขยับไปอีกนิดด้วยการออกคำสั่งให้โอนสำนวนคดีไปให้ดีเอสไอรับผิดชอบเสียเลย ผมเชื่อว่าจะได้รับความน่าเชื่อถือจากสาธารณชนมากกว่าให้ตำรวจทำเอง” นายเชาว์กล่าว