วันนี้ (31 ก.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ที่อาคารรัฐสภา ถึงกระแสข่าวการทูลเกล้าฯ ถวายรายชื่อรัฐมนตรีชุดใหม่ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีนั้น ไม่แน่ใจว่าเป็นข่าวจริงหรือไม่ แต่ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ที่มีกระแสข่าวจะปรับคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีเพียงคนเดียวนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด น่าจะเป็นเพียงการปล่อยข่าว หรือการโยนหินถามทางมากกว่าซึ่งไม่เป็นธรรมต่อคุณหญิงกัลยา เพราะการจะปรับรัฐมนตรีในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ออกจากตำแหน่งจะต้องมีการประเมินผลงานของรัฐมนตรีแต่ละคน ตามข้อตกลงของที่ประชุมร่วมระหว่างรัฐมนตรีกับ ส.ส.ของพรรค ที่เกาะเสม็ด ซึ่งได้กำหนดไว้ชัดเจนให้มีการประเมินผลงานรัฐมนตรีภายในเวลา 2 สัปดาห์ และบัดนี้ได้ครบตามกำหนดที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้รับปากไว้แล้ว เพราะฉะนั้นในสัปดาห์นี้น่าจะมีคำตอบที่ชัดเจน
ทั้งนี้ ในการประชุม ส.ส.พรรคสัปดาห์หน้า ตนจะนำเสนอเรื่องนี้ขึ้นมาพิจารณาในที่ประชุม ซึ่งยังอยู่ในห้วงเวลาการปรับคณะรัฐมนตรีที่กำหนดเวลาภายในเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ก็ควรเร่งรัดให้มีการประเมินผลงานรัฐมนตรีให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้ด้วย
ส่วนการประเมินผลงานรัฐมนตรีของพรรค หากใช้วิธีการประเมินในรูปแบบคณะกรรมการอาจจะทำให้เกิดความล้าช้าไป ไม่ทันต่อสถานการณ์การปรับคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้ เพื่อความเป็นธรรมของทุกฝ่าย ตนจะเสนอให้รัฐมนตรีของพรรคทั้ง 7 คน เสนอผลงานผ่านเอกสาร หนังสือสรุปผลงาน หรือคลิปผลงานต่อ ส.ส.ของพรรคทั้ง 52 คนได้พิจารณา ใช้ผลโหวตจาก ส.ส.ของพรรคเป็นผลการประเมิน ไม่จำเป็นต้องมีคณะกรรมการประเมิน หรือผลโพลของสำนักใดๆ เพราะการใช้เสียงโหวตจาก ส.ส.ของพรรคโหวตประเมินผลงานตรงประเด็นที่สุด เพราะ ส.ส.เป็นตัวแทนของประชาชนโดยตรง ถ้าหากรัฐมนตรีคนใดผ่านเสียงโหวตเกิน 50% ขึ้นไป ถือว่าสอบผ่าน สามารถดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่อไปได้ ถ้ารัฐมนตรีคนใด มีเสียงโหวตประเมินผลงานต่ำกว่า 50% ก็จะต้องปรับออกจากตำแหน่ง ซึ่งเป็นการสร้างความเป็นธรรมให้กับรัฐมนตรีทั้ง 7 คน โดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ