“ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์” ห่วงม็อบชนม็อบ วอนผู้นำม็อบนักศึกษาเลี่ยงการจาบจ้วงเบื้องสูง และผู้มีอำนาจอย่าจัดตั้งม็อบต่อต้านนักศึกษา
วันนี้ (29 ก.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวกรณีการชุมนุมของนิสิตนักศึกษาที่กำลังขยายตัวกระจายไปทั่วทุกภูมิภาคและทุกจังหวัดว่า จากการที่มีการจัดการชุมนุมอย่างต่อเนื่องในรูปแบบการชุมนุมที่หลากหลายทำให้เป็นที่สนใจและมีผู้เข้าร่วมการชุมนุมเพิ่มจำนวนขึ้น ขยายจุดชุมนุมมากยิ่งขึ้น สามารถเรียกได้ว่าม็อบจุดติดแล้ว และกำลังมีบางฝ่ายกำลังหาจุดอ่อนการชุมนุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำประเด็นการจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อนของการชุมนุมของนักศึกษามาทุกยุคทุกสมัย นับตั้งแต่เหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ที่มีการแต่งภาพใบหน้าของตัวละครล้อการเมืองเหมือนองค์รัชทายาท แล้วปลุกระดมจนนำไปสู่การล้อมปราบเข่นฆ่านักศึกษาในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และกลางท้องสนามหลวง จนเกิดโศกนาฏกรรมกลางเมือง
ในวันนี้ขบวนการนักศึกษาก็เริ่มมีการเคลื่อนไหวและมีบทบาททางการเมืองอีกครั้งหนึ่ง มีความพยายามหยิบยกเรื่องการจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงมาเป็นจุดโจมตีทำลายความน่าเชื่อถือของการชุมนุมของนักศึกษาในครั้งนี้ด้วยและในขณะเดียวกันก็เริ่มมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักศึกษาอาชีวะภายใต้ชื่อกลุ่มอาชีวะช่วยชาติ รวมพลังปกป้องสถาบัน ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซึ่งเป็นรูปแบบการจัดตั้งม็อบชนม็อบเหมือนกับในอดีตหลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ที่มีการจัดตั้งกลุ่มกระทิงแดง และศูนย์กลางนักเรียนอาชีวะเพื่อค้านอำนาจการเคลื่อนไหวกับกลุ่มศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (ศนท.) ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าวิตกกังวลเป็นอย่างยิ่ง ถ้าหากมีบุคคลบางกลุ่ม หรือบางฝ่ายยังคิดใช้วิชามารและวิธีการเดิมๆ ในลักษณะเกลือจิ้มเกลือ จัดตั้งกลุ่มนักศึกษาเพื่อให้ปะทะกัน ขัดแย้งกัน ถึงขั้นที่คนไทยต้องฆ่ากันเอง อย่าให้ประวัติศาสตร์ 6 ตุลา 19 ต้องกลับมาซ้ำรอยอีก
อยากจะเรียกร้องมายังกลุ่มนักศึกษาให้หลีกเลี่ยงประเด็นการจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงในการชุมนุม และผู้มีอำนาจบางกลุ่มหยุดใช้วิธีสร้างสถานการณ์รูปแบบเดิมๆ จัดตั้งมวลชนขึ้นมาเคลื่อนไหวในลักษณะม็อบชนม็อบ จนเกิดความวุ่นวายของบ้านเมือง และจะนำไปสู่ข้ออ้างในการรัฐประหาร ยึดอำนาจซ้ำอีกครั้งหนึ่ง ขอให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน ร่วมกันแก้ปัญหา หาทางออกของบ้านเมืองด้วยสันติวิธี เพื่อป้องกันความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นกับทุกฝ่าย และสร้างความเสียหายให้ประเทศชาติอย่างยับเยิน