ประธาน กมธ.แก้ความยากจนฯ วุฒิสภา นำคณะดูงานจัดการน้ำกว๊านพะเยา นำความรู้ใหม่ร่วมแก้ไขปัญหาในพื้นที่ พร้อมแนะเร่งทำแหล่งเก็บกักน้ำขนาดเล็ก ก่อนฝนจะหมดในอีก 2 เดือนกว่าข้างหน้า
เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2563 นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ ประธานคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ รองประธานคณะกรรมาธิการ และ นายชนศวรรตน์ ธนศุภรณ์พงษ์ อนุกรรมาธิการ พร้อมคณะ เดินทางไปศึกษาดูงาน ‘การบริหารจัดการน้ำกว๊านพะเยา’ โดยประชุมเสนอแนะ รับรู้ข้อมูล แลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วม กับจังหวัดพะเยา โดยมีหน่วยงานเข้าร่วมหารืออย่างคึกคัก ได้แก่ ปลัดจังหวัด หัวหน้าสำนักงานจังหวัดพะเยา นายอำเภอเมืองพะเยา ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพะเยา ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดพะเยา และ 7 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรอบกว๊านพะเยา
นายปราโมทย์ ปิงเมือง ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพะเยา กล่าวถึงปัญหากว๊านพะเยาว่า มี 3 ปัญหาหลัก ได้แก่ น้ำไม่พอ ตื้นเขิน น้ำเสีย ปริมาณน้ำไม่พอผลิตน้ำประปา การเกษตร และน้ำท่วมในช่วงฤดูฝน
ทั้งนี้ กว๊านพะเยามีพื้นที่ 12,631 ไร่ มีลำน้ำไหลเข้า 13 สาย เก็บกักน้ำได้ 55.65 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันมีน้ำเพียง 13.084 ล้าน ลบ.ม. หรือเพียง 23.51 %
‘การพัฒนากว๊านพะเยา ต้องเชื่อมโยงกับการพัฒนาลุ่มน้ำอิง ตั้งแต่ต้นน้ำโดยเฉพาะบริเวณหนองเล็งทราย อำเภอแม่ใจ’ นายปราโมทย์ กล่าว
ส่วนพื้นที่ตำบลบ้านตุ่น ซึ่งอยู่ด้านตะวันตกของกว๊านพะเยา ประสบปัญหาแล้งมาก ซึ่งไม่เคยเป็นมาก่อน โดยคิดว่าจะสูบน้ำจากกว๊านพะเยาซึ่งต้องใช้งบประมาณมาก
นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ ประธานคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา กล่าวต่อที่ประชุมว่า “คณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนลดความเหลื่อมล้ำ ตั้งใจแก้ปัญหาเรื่องน้ำที่จังหวัดพะเยาให้สำเร็จ เพราะน้ำเป็นหัวใจสำคัญในการแก้ปัญหาความยากจน ฉะนั้น การแก้ปัญหาต้องใช้วิธีทำที่กักเก็บน้ำขนาดเล็กด่วนที่สุด ที่เหลือเวลาอีก 2 เดือนกว่าก่อนฝนจะหมด“”
“คณะกรรมาธิการฯ ของเรา นำความรู้ ความคิดใหม่ๆ ในการแก้ปัญหาขาดน้ำ เราจะแก้ปัญหาร่วมกัน” นายสังศิต กล่าวในที่สุด