xs
xsm
sm
md
lg

“ส.ส.กทม.” ชงฟื้น “รถราง” รอบเกาะรัตนโกสินทร์ ดึงนักท่องเที่ยว จี้ตรวจสอบท่อดับเพลิงหัวแดงให้พร้อมใช้งาน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ
“กานต์กนิษฐ์” ส.ส.กทม. พปชร.ชงฟื้น “รถราง” เที่ยวชมรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ดึงนักท่องเที่ยว พร้อมขอรถประจำทางผ่านหน้า “ร.ร.สายปัญญา” ด้าน “กรณิศ” จี้ กทม.เร่งตรวจสอบท่อประปาหัวแดงดับเพลิงทั่วกรุง ให้มีประสิทธิภาพ-พร้อมใช้งาน หากเกิดเพลิงไหม้ หลังไฟไหม้ “คลองเตย” วานนี้

วันนี้ (22 ก.ค. 63) ที่รัฐสภา ในช่วงการหารือก่อนเข้าสู่วาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร น.ส.กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ได้กล่าวหารือประธานสภาฯ ถึงความเดือดร้อนของบุคลากรโรงเรียนสายปัญญาในพระบรมราชินูปถัมภ์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กว่า 1,300 คน เนื่องจากบริเวณโรงเรียนมีป้ายรถประจำทาง แต่ไม่มีรถผ่าน จนทำให้ต้องเดินกว่า 1 กิโลเมตร ไปขึ้นรถที่ป้ายรถประจำทางหัวลำโพง ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายจากมิจฉาชีพ และอุบัติเหตุจากการใช้รถใช้ถนน ทั้งนี้ ยังเคยเกิดอุบัติเหตุจนนักเรียนเสียชีวิตมาแล้ว จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องผลักดันให้รถประจำทาง สาย 29, 34 และ 113 กลับมาผ่านหน้าโรงเรียนดังเดิม

น.ส.กานต์กนิษฐ์ ยังขอหารือถึงข้อเรียกร้องของผู้ประกอบการธุรกิจที่พักโรงแรมรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ให้รื้อฟื้น และสนับสนุนการให้บริการรถรางเที่ยวชมและไกด์นำเที่ยว โดยขอให้ กทม.เป็นเจ้าภาพร่วมกับส่วนที่เกี่ยวข้องดึงดูดนักท่องเที่ยวสร้างรายได้ให้กับประชาชน

กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ
ด้าน นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ได้หารือประธานสภาฯ ถึงการเกิดอัคคีภัยในพื้นที่เขตคลองเตยเมื่อวันที่ 21 ก.ค.ในช่วงเวลา 18.30 น. ที่ผ่านมา โดยจากการสำรวจพบว่า บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียกว่า 13 หลังคาเรือน และประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 60 คน โดยพรรคพลังประชารัฐ ได้รับเรื่องร้องเรียนจากหน่วยงานดับเพลิงที่เข้าไปช่วยเหลือถึงประเด็นปัญหาการตัดกระแสไฟล่าช้า ทำให้เกิดเหตุบานปลาย และท่อประปาหัวแดงดับเพลิงที่มีน้ำไหลอ่อน หรือไม่มีน้ำ ก่อให้เกิดอุปสรรคสำคัญในการช่วยเหลือ

“ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยสำรวจตรวจสอบหัวจ่ายกับเพลิงให้มีความพร้อมในการใช้งานได้ตลอดเวลา ช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงที เนื่องจากในพื้นชุมชนเมือง ไม่มีแหล่งน้ำธรรมชาติ และขอขอบคุณหน่วยงานที่เข้าไปช่วยเหลือเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย” นางกรณิศ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น