อดีต ส.ส.ปชป.ตบหน้า “บิ๊กต่อ” ยันมีใบสั่งถอดออกจาก กมธ.สอบตั้งสภาใหม่จริง อัดข่าวทุจริตเกลื่อนแต่ ปชป.กลับปิดปากสงบเสงี่ยม ลูกพรรคล่าชื่อบี้ กก.บห.แจงปมเปลี่ยนโลโก้พรรค “นราพัฒน์” เตรียมหารือทีม กม.ชี้หากผิดต้องเปลี่ยน
วันนี้ (19 ก.ค.) นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กทม.กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนเองได้แถลงความเละเทะของการสร้างสภาใหม่ ไม่รู้ว่าไปแทงใจดำใครบ้าง และได้ไปร้องต่อ ป.ป.ช.ตามปกติ แต่ก็เกิดปัญหาที่พรรค มีหัวหน้าพรรคพรรคหนึ่ง มาบอกว่าหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคเขาด่าลูกพรรคไปแล้วที่แถลงข่าว และตนก็ไม่รู้ว่าใครส่งไลน์ไป และไม่มีการยอมรับหรือปฏิเสธ หลังจากนั้นก็มีญัตติตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาการสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ ตนยืนยันมาตลอดว่าชอบตรวจสอบอิสระ เพราะไม่รู้ว่าเข้าไปแล้วจะฮั้วกันยังไง แต่วันนั้นในที่ประชุมพรรคมีคนจะเสนอตนเป็นกรรมาธิการ ตนก็ยืนยันว่าไม่เอา แต่ก็มีมติว่าให้ตนเป็นกรรมาธิการ แต่เมื่อเวลาผ่านไปถึง 2 ทุ่มมีคนมาบอกว่าขอเปลี่ยนตัว แต่ตนขอให้ทำตามหลักการคือเปลี่ยนในที่ประชุมพรรค ตนไม่รู้ว่าประธานวิปพรรคประชาธิปัตย์เป็นใครและใหญ่มาจากไหนมาเปลี่ยชื่อตน และถามกลับว่าคนที่เปลี่ยนแทนตนได้เข้าประชุมหรือเปล่า มีโจรคนไหนอมน้ำมนต์มา ไม่อยากบอกว่าพฤติกรรมแบบนี้มันส่อว่าอยู่ใต้อาณัติ ใครจะปฏิเสธไม่มีทาง
“ผมขอให้ที่ประชุมพรรคยึดหลัก สิ่งที่พูดไปต้องทำจริง ไม่ช่วันนี้อยู่ดีๆ ไปประกาศว่าพรรคมีข้อบังคับมีบทลงโทษ แต่ทำเฉพาะบางคนอย่างนี้ใช้ไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องทุจริตที่เป็น 1 ใน 3 เงื่อนไขร่วมรัฐบาล เวลามีข่าวทุจริตพรรคเคยแสดงความคิดเห็นสักครั้งไหม เห็นสงบเสงี่ยมเจียมตัวดี บอกว่าเป็นพรรคเล็กทำอะไรต้องเกรงใจแกนนำ แต่เราต้องยึดความถูกต้อง อะไรที่ใช้ไม่ได้ ต้องบอกว่าใช้ไม่ได้ บางคนอาจจะบอกว่าวันนี้เสียงพรรคยังดี แต่แหล่งที่มาไม่เหมือนกัน ผมลงพื้นที่ไม่น้อยกว่าคนอื่น ถ้าเรายังยึดนโยบายแบบนี้มันจะดีจริงไหม ถ้าเราตามเขาไปถึงพริกถึงขิง คนที่เริ่มวิจารณ์พรรคเรามีความรู้มีฐานะ คนเหล่านี้เป็นฐานเสียงพรรคเรา แต่เขาเริ่มไปที่อื่นและค่อนข้างวิจารณ์เรา” นายวิลาศกล่าว
ต่อมานายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สมาชิกพรรคส่วนหนึ่ง อาทิ นายไชยวัฒน์ ไตรสุรนันท์ อดีต ส.ส.เพชรบูรณ์ นายเจริญ คันธวงศ์ อดีต ส.ส.กทม. และนายสัมพันธ์ ตั้งเบญจผล อดีต ส.ส.สุโขทัย ได้ลงชื่อในจดหมายเปิดผนึกถึงหัวหน้าพรรคขอกรรมาการบริหารพรรคให้เปลี่ยนโลโก้พรรคในเพจและสื่อออนไลน์ให้เป็นตราพรรคแบบเดิมตามกฎหมาย โดยให้เหตุผลว่าการเปลี่ยนโลโก้พรรคโดยตัดภาพรวงข้าว และพุทธภาษิตออกไปนั้น สมาชิกพรรคจำนวนมากไม่เห็นด้วยเพราะไม่ผ่านประชาพิจารณ์ และอาจผิดกฎหมายพรรคการเมือง เพราะเพจที่แสดงสัญลักษณ์ของพรรคก็ต้องใชข้ตามที่จดทะเบียนไว้ตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม ในส่วนนี้นายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรคชี้แจงว่า ขณะนี้ยังทราบจะข้อบังคับพรรคหรือไม่ แต่ยืนยันว่าไม่ได้เปลี่ยนโลโก้ แต่ที่ผ่านมามีการนำไปใช้ในบางพื้นที่ เช่น ทำเสื้อ หรือสัญลักษณ์อื่นๆ ทางฝ่ายกฎหมายพิจารณาแล้วว่านำไปใช้ได้ เพราะมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ซึ่งไม่ใช่เอกสารสำคัญที่ส่งต่อ กกต. แต่ในกรณีที่อยู่บนเฟซบุ๊กหรือสื่อออนไลน์ของพรรค อันนี้ก้ำกึ่ง คงต้องให้ฝ่ายกฎหมายของพรรคพิจารณา หากพบว่าไม่ถูกต้องจะประสานฝ่ายไอทีพรรคให้ทำการแก้ไข