เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ชี้ ศบค.เลือกปฏิบัติสองมาตรฐาน เหตุปล่อย ผบ.ทบ.สหรัฐฯ ที่เดินทางเยือนไทยไม่ต้องกักตัว 14 วัน จี้คณะทำงานคนไทยที่พบปะ ผบ.ทบ.สหรัฐฯ ทุกคนต้องกักตัว 14 วันแทน
วันนี้ (7 ก.ค.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่ ศบค.อนุญาตให้ General James McConville ผบ.ทบ.สหรัฐอเมริกา เดินทางมาเยือนประเทศไทยในระหว่างวันที่ 9-10 ก.ค.นี้ โดยไม่ได้กำหนดมาตรการการกักตัว 14 วันเหมือนคนต่างด้าวและคนไทยในต่างแดนที่เดินทางกลับเข้าประเทศไทยเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดจากการติดเชื้อโควิด-19 นั้น
กรณีดังกล่าวแม้ ศบค.จะพยายามออกมาชี้แจงว่า ผบ.ทบ.สหรัฐฯ และคณะจะเดินทางมาเยือนประเทศไทยตามข้อตกลงพิเศษ หรือ Special Arrangement ในฐานะแขกทางการ ที่เข้าเงื่อนไขไม่ต้องกักตัว 14 วัน แต่ก็ต้องปฏิบัติตามมาตรการ 6 ข้อของ ศบค.อย่างเคร่งครัดก็ตาม แต่มาตรการดังกล่าวไม่ได้เป็นสิ่งบ่งชี้ว่าการเดินทางมาเยือนประเทศไทยครั้งนี้ของ ผบ.ทบ.สหรัฐฯ และคณะจะไม่ทำให้เชื้อไวรัสโควิด-19 ที่อาจแฝงมาจากสหรัฐฯ มาสู่คนไทย เพราะผลสำรวจของศูนย์ควบคุมโรคติดต่อ (ซีดีซี) ของสหรัฐอเมริกาล่าสุดยังพบว่า มากกว่าครึ่งของผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือ 54% ไม่รู้ตัวว่าพวกเขาไปติดโรคมาจากไหน สะท้อนแนวโน้มการแพร่ระบาดในกลุ่มผู้เป็นพาหะที่ไม่แสดงอาการ ซึ่งมักจะเป็นคนใกล้ชิด ผู้ร่วมงานหรือสมาชิกในครอบครัว ดังนั้น ผบ.ทบ.สหรัฐฯ และคณะซึ่งมาจากประเทศที่มีสถิติของผู้ที่ติดเชื้อมากที่สุดในโลกเกือบ 3 ล้านคนแล้ว จึงไม่อาจจะเชื่อใจได้ว่าเขาเหล่านั้นจะไม่เป็นพาหะที่ไม่แสดงอาการก็ได้ อีกทั้งมาตรการ 6 ข้อก็เป็นข้อกำหนดที่ ศบค.คิดกันขึ้นมาเองเพื่อเอื้อประโยชน์ต่อ ผบ.ทบ.สหรัฐฯ เป็นการเฉพาะเท่านั้น และมิได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแต่อย่างใด
นอกจากนั้น นายกรัฐมนตรีและโฆษก ศบค.พยายามพร่ำบอกให้คนไทยการ์ดอย่าตกแบบแผ่นเสียงตกร่องมาโดยตลอด แต่ทว่าคนของรัฐบาลกลับมีอภิสิทธิชน อาทิ เมื่อคืนวันที่ 4 ก.ค. 63 ที่ผ่านมาในวันระลึกวันชาติสหรัฐฯ ที่สถานทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย มีการจัดงานวันชาติสหรัฐฯ มีนักการเมืองไทยไปร่วมงานมากมาย โดยเฉพาะรองนายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล และรองโฆษก ศบค.ก็ไปร่วมงานด้วย กลับไม่มีใครใส่มาสก์ และไม่มีระยะห่างกันเลยแต่อย่างใด ชี้ให้เห็นว่าคนของรัฐบาลและ ศบค.ไม่เป็นต้นแบบที่ดีในการป้องกันโควิด-19 แต่กับประชาชนกลับบังคับให้ต้องทำ
ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยไม่อาจปล่อยให้กรณีดังกล่าวเป็นการเอื้อประโยชน์แบบไม่มีมาตรฐานของ ศบค.ต่อไปได้ จึงจะนำความไปร้องต่อ ป.ป.ช.เพื่อขอให้ตรวจสอบการใช้อำนาจของ ศบค.ว่าเป็นไปแบบไร้มาตรฐานและทุจริตต่อหน้าที่หรือไม่ โดยจะเดินทางไปยื่นคำร้องในวันพฤหัสบดีที่ 9 ก.ค. 63 เวลา 10.30 น. ที่สำนักงาน ป.ป.ช. นนทบุรี