“ประยุทธ์” พร้อมดำเนินตามรอยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ใช้วิธี “จูงน้ำ” เร่งหาวิธีเจาะน้ำใต้ดินมาใช้ให้เกิดประโยชน์และทั่วถึง ย้ำในฐานะผู้นำจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด
วันนี้ (30 มิ.ย.) เมื่อเวลา 13.30 น. ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า วันนี้ในที่ประชุมได้เร่งรัดการพัฒนาเรื่องของน้ำ ต้องไปดูว่าการใช้น้ำใต้ดินทำอย่างไรให้เป็นระบบมากยิ่งขึ้น วันการบริหารจัดการน้ำมี สทนช.อยู่แล้วในการบูรณาการ มีหลายกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ทั้งหมดก็ต้องมาบูรณาการกันในเรื่องของแผนงานโครงการให้สอดคล้องกัน ทั้งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงกลาโหม ซึ่งช่วยกันทั้งหมด
“วันนี้เราต้องมาดูว่าเราจะจูงน้ำได้อย่างไร การจูงน้ำก็คือการนำน้ำจากที่มากไปสู่ที่น้ำน้อย ก็ต้องใช้เครื่องไม้เครื่องมือในการสูบเพื่อที่จะทอยน้ำ ถือเป็นหลักการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอยู่แล้วในเรื่องของการทำอ่างพวง วันนี้เราต้องมาพิจารณาใหม่แล้วว่าการจัดหาแหล่งน้ำบนดินที่รองรับน้ำฝนค่อนข้างจะมีปัญหาแล้วสำหรับประเทศไทย เนื่องจากอากาศโลกเปลี่ยนแปลง ฝนก็ไม่ตกตามฤดูกาล ก็ต้องมาคิดว่าเราจะเอาน้ำใต้ดินขึ้นมาใช้ได้อย่างไร และทำอย่างไรจะทั่วถึง การลงทุนก็สูง วันนี้การขุดเจาะน้ำใต้ดินต้องเจาะลงไปลึกถึง 130 เมตรแล้ว เพราะระดับน้ำใต้ดินเปลี่ยนซึ่งอาจเกิดจากแผ่นดินทรุด หรืออะไรต่างๆ และนับวันจะลึกไปทุกที ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องหาวิธี วันนี้ในเรื่องของการสูบน้ำขึ้นมา ต้องคิดให้ถ้วนถี่ในทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งการสิ้นเปลืองในเรื่องของประปา ทั้งประปาหมู่บ้าน และประปาสาธารณะ ต้องจัดหาแหล่งน้ำใต้ดินมาเพิ่มเติมเพื่อป้องกันปัญหาแหล่งน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคขาดแคลน และวันนี้น้ำเค็มซึมลึกเข้ามาในพื้นที่ตอนในเข้าไปอีก สิ่งเหล่านี้เป็นปัญหาที่หนักหนามากกว่าปัญหาอะไรทั้งสิ้น ผมไม่อยากพูดว่าปัญหาอะไร แต่มันหนักหนาสาหัสเพราะประชาชนได้รับผลกระทบ แต่ผมในฐานะที่เป็นผู้นำรัฐบาลก็อยากจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด”