“เสรีพิศุทธ์” กางจดหมายร้องเรียน แฉ “นายอำเภอเสริมงาม” ใช้อำนาจรัฐเป็นหัวคะแนนให้ พปชร.เลือกตั้งซ่อม จ.ลำปาง พร้อมเปิดรับข้อมูลการทุจริตเลือกตั้งได้โดยตรงจากประชาชน จ่อยื่น กกต.ตรวจสอบ
วันนี้ (24 มิ.ย.) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย แถลงข่าวถึงกรณีการเลือกตั้งซ่อมที่เขต 4 จังหวัดลำปาง ซึ่งพรรคที่แข่งขันกันจริงๆ มี 2 พรรค ได้แก่ พรรคพลังประชารัฐ และพรรคเสรีรวมไทย เมื่อตนดูคะแนนของพรรคฝ่ายค้านเดิมรวมกันได้ทั้งหมดกว่า 7 หมื่นคะแนน ส่วนฝ่ายรัฐบาลมีอยู่ 3 หมื่นกว่าคะแนน ซึ่งการเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมามีผู้มาลงคะแนนกว่า 1.3 แสนคน หรือประมาณ 97% เมื่อเทียบกับการเลือกตั้งครั้งแรก ในระหว่างการพบปะประชาชนได้รับการต้อนรับอย่างเต็มที่และก็ได้ยินข่าวจากประชาชนว่ามีการซื้อเสียงเลือกตั้งรายละ 300 บาท แต่ไม่ได้มีอำนาจตามกฎหมายที่จะตรวจสอบการทุจริตได้เหมือนอดีต อย่างไรก็ตาม ยังมีประชาชนเขียนจดหมายมาถึงตนร้องเรียนว่ามีคนขอซื้อบัตรประชาชน หรือจดหมายเลขบัตรประชาชนเพื่อที่จะไปกาคะแนนแทนกันในคูหาเลือกตั้ง แต่ กกต.ก็ไม่ได้สนใจในการปฏิบัติหน้าที่ ปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริต ตนและประชาชนได้ยินเรื่องนี้กันหมด แต่สงสัยว่า กกต.ไม่ได้ยินหรือ
พร้อมกันนี้ยังแสดงจดหมายของสมาชิกสภาเทศบาลตำบลเสริมงาม กล่าวหานายอำเภอเสริมงามวางตัวไม่เป็นกลาง บังคับให้ผู้นำท้องถิ่นเป็นหัวคะแนน ให้เก็บบัตรประชาชน และจำกัดความคิดเห็นประชาชน และใช้อำนาจรัฐควบคุม นอกจากนี้ยังมีจดหมายที่ไม่ได้ลงชื่อ เปิดเผยว่ามีคำสั่งจากนายอำเภอให้หัวคะแนนมาแตกเงินที่บ้าน บังคับให้เลือกเบอร์ 1 พร้อมทั้งกรอกแบบฟอร์มที่ระบุชื่อและเลขบัตรประชาชน ร้องเรียนว่าผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 อำเภอเสริมงาม และประธาน อสม.เป็นผู้ล่าลายชื่อ ทำตัวไม่เป็นกลาง อีกทั้งยังมีจดหมายร้องเรียนการซื้อเสียงจากอำเภอเกาะคาด้วย แต่ กกต.ไม่รับหลักฐานที่เป็นบัตรสนเท่ห์ ทั้งที่คนตั้งใจทำงานจะสามารถสืบหาตัวผู้กระทำผิดได้ แต่ตนก็ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.วิศณุ ม่วงแพรสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ ไปแจ้งความดำเนินคดีต่อนายอำเภอและร้องเรียน กกต.แล้ว
“ผู้ที่จ่ายเงินดูถูกพี่น้องประชาชนชาวลำปาง เอาเงินมาให้ 300 บาทเพื่อให้รัฐบาลนี้ทำงานไป 4 ปี หรือ 1,460 วันหรือเท่ากับจ้างชาวบ้านวันละ 40 สตางค์ต่อวัน”
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวอีกว่า ตนเคยทำคดีการซื้อเสียงในปี 2537 ก็แจกเงินคนละ 300 บาท แต่ผ่านมาหลายปียังแจก 300 บาท ไม่กล้าลงทุน และดูถูกพี่น้องประชาชนมาก
นอกจากนี้ยังมีการแจกเอกสารที่มีรายชื่อผู้ทำโพล 30 คน พร้อมเลขบัตรประชาชน โดยมีผู้จัดทำโพลพร้อมเบอร์โทร.อย่างชัดเจน ตนจะเอาหลักฐานนี้ไปร้อง กกต.เพิ่มเติม คาดการณ์ว่าบางคนอยู่ต่างประเทศ อยู่ต่างอำเภอ ก็ส่งสำเนาบัตรประชาชนมาแล้วให้เจ้าหน้าที่ในหน่วยกาบัตรเลือกตั้งให้ และมีแบบนี้กว่า 300 หน่วย ตนจะไม่แพ้ได้อย่างไร แล้วยิ่งได้ผู้แทนที่ซื้อเสียงไปมเข้ามาทำงานก็ต้องโกง หรือถ้าผู้สมัครไม่โกง พรรคก็ต้องโกง เพราะเอาเงินลงไปซื้อเสียงตั้งมาก ตนจึงขอย้ำให้ประชาชนในจังหวัดลำปางรักศักดิ์ศรี ถ้าใครมีข้อมูลหลักฐานก็สามารถส่งมาให้ตนได้โดยตรง และประชาชนที่ให้เบาะแสการทุจริต กกต. ก็จะมีรางวัลให้ 1-3 แสนบาทตามระเบียบ