รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ชี้การรื้อถอนอาคารบอมเบย์เบอร์มา อายุ 131 ปี ที่ตั้งอยู่บริเวณสวนรุกขชาติเชตะวัน จ.แพร่ ย้ำจะรับผิดชอบการฟื้นฟูอย่างเต็มที่ มั่นใจจะฟื้นอาคารแห่งนี้กลับมาได้มากกว่า 90% ยันไม้สักจากการรื้อถอนอยู่ครบถ้วน มีเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ได้ถูกนำไปขายตามที่มีการกล่าวหาในโลกโซเชียลฯ
วันนี้ (24 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นายเอกการ ซื่อทรงธรรม ส.ส.แพร่ พรรคภูมิใจไทย ตั้งกระทู้ถามสดกรณีการรื้อถอนอาคารบอมเบย์เบอร์มา อายุ 131 ปี ที่ตั้งอยู่บริเวณสวนรุกขชาติเชตะวัน จ.แพร่ ที่ทุกคนตั้งข้อสงสัยการรื้อถอนดำเนินการอย่างถูกต้องหรือไม่ อาคารดังกล่าวเป็นโบราณสถาน ต้องขออนุญาตจากกรมศิลปากร และสอบถามความเห็นจากประชาชนในการดำเนินการใดๆ จึงอยากทราบถึงเหตุผลการรื้อถอน การดำเนินการปรับปรุงฟื้นฟูอาคารจะดำเนินการอย่างไร รวมถึงทรัพย์สินต่างๆ ภายในอาคาร และไม้สักจากตัวอาคารขณะนี้อยู่ที่ไหน
โดยนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ชี้แจงว่า การรื้อถอนอาคารดังกล่าวเพื่อบูรณะพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว แต่สิ่งที่ผิดพลาด คือ การดำเนินการโดยขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน คำว่าเสียใจ ขอโทษ คงไม่พอ ตนรับไม่ได้เช่นกันกับการกระทำดังกล่าว ถือว่าขาดความรอบคอบ ไม่คำนึงถึงจิตใจชาวแพร่ อย่างไรก็ตาม กรมอุทยานแห่งชาติฯ จะรับผิดชอบการฟื้นฟูอย่างเต็มที่ มั่นใจว่าจะฟื้นอาคารแห่งนี้กลับมาได้มากกว่า 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ ส่วนไม้สักจากการื้อถอนนั้นยืนยันยังอยู่ครบถ้วน มีเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอด 24ชั่วโมง ไม่ได้ถูกนำไปขายตามที่มีการกล่าวหาในโซเชียลมีเดีย เรื่องนี้ต้องมีบทลงโทษผู้ทำผิด มีตั้งแต่การตัดเงินเดือน ไปจนถึงการไล่ออกหรือให้ออกจากราชการ