“ชลน่าน”ชี้ร่างพ.ร.บโอนงบฯ ขัดหลักประชาธิปไตย-กฎหมาย วิธีงบประมาณ ตั้งฉายาจอมโอนแห่งยุค เหตุตั้งแต่เกิดคสช.โอนถึง 4 รอบ ย้ำหากไม่แก้ไขในชั้นกมธ.ฝ่ายค้านพร้อมโหวตคว่ำ
วันนี้ (4 มิ.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุมเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. ....วงเงิน 88,452 ล้านบาท ซึ่งคณะรัฐมนตรี เป็นผู้เสนอ
จากนั้นสมาชิกได้อภิปรายแสดงความเห็น โดยเริ่มจาก นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้ได้รับมอบจากผู้นำฝ่ายค้านให้เป็นผู้อภิปรายนำแทนผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวว่า การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้เป็นครั้งแรกของสภาที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน เพราะการพิจารณากฎหมายโอนงบประมาณตามประวัติศาสตร์ที่ผ่านมามีแล้ว 5 ครั้ง โดยเป็นการพิจาณาของสภาที่ไม่ได้มาจากการเลือกของประชาชน จากการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแล้วขอเรียนตามตรงว่าไม่สามารถรับหลักการได้ด้วยเหตุผล 2 ประการ 1.หลักการขัดกับหลักประชาธิปไตยและกฎหมายอื่น ซึ่งตามหลักการนำงบประมาณไปใช้ต้องคำนึงถึงหลักความยินยอมของประชาชน เป็นหลักการสำคัญที่สภาต้องตรวจสอบได้ กล่าวคือ พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ พ.ศ.2561 กำหนดห้ามไม่ให้มีการโอนงบประมาณข้ามหน่วยงานเท่านั้น แม้กฎหมายจะอนุโลมให้โอนงบประมาณ แต่การโอนงบประมาณนั้นต้องเป็นโอนกันระหว่างหน่วยรับงบประมาณด้วยเท่านั้น ซึ่งการโอนงบประมาณเข้างบกลางนั้นจะมีปัญหาเรื่องความชอบด้วยกฎหมายทันที โดยงบกลางไม่ได้มีสถานะเป็นหน่วยรับงบประมาณ แต่เป็นเพียงรายการการใช้เงินเท่านั้น ประกอบกับ งบกลางส่วนนี้ผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจ คือ นายกฯเท่านั้น
นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า 2.รายการของการโอนงบประมาณครั้งนี้ต้องเรียกว่าจอมโอนแห่งยุค เพราะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ทำการโอนงบประมาณมาแล้ว 4 ครั้งตั้งแต่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มากที่สุดในประวัติศาสตร์ ประกอบกับ เมื่อวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่าน พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะประธานกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ ออกประกาศคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ เพื่อกำหนดสัดส่วนงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเป็นจำนวนไม่น้อยกว่า 2% แต่ไม่เกิน7.5% ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี ซึ่งเป็นการแก้ไขระเบียบมารองรับเพื่อให้งบกลางอยู่ในอำนาจของนายกฯแต่เพียงผู้เดียวมากขึ้น
"การทำร่างกฎหมายเช่นนี้เหมือนกับการเป็นหมัดมือสภาและตีเช็คเปล่า หากสภาอนุมัติให้ผ่านไป เราจะเป็นสภาจากการเลือกตั้งชุดแรกที่มีรอยด่างว่าถูกหมัดมือชกและเห็นชอบกฎหมายโอนงบประมาณที่ไม่ควรเห็นชอบ เพราะไม่มีรายละเอียด ดังนั้น เพื่อศักดิ์ศรีของสภาเราโปรดอย่าได้รับหลักการ แต่หากจะรับหลักการก็ต้องรับหลักการแบบมีเงื่อนไข โดยหากการพิจารณาวาระ2และ3ยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับการใช้งบประมาณอีก ฝ่ายค้านในฐานะเสียงข้างน้อยจะโหวตคว่ำเพื่อบันทึกเอาไว้" น.พ.ชลน่าน กล่าว