สหภาพแรงงาน อสมท ยื่นหนังสือ “ประยุทธ์-เทวัญ” สอบปมเสนอสัดส่วนเงินชดเชยคลื่น 2,600 เมกะเฮิรตซ์ จาก กสทช. ทำรัฐเสียหายหลักพันล้าน
วันนี้ (1 มิ.ย.) ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล นายสุวิทย์ มิ่งมล ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บมจ.อสมท ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการเสนอสัดส่วนเงินชดเชยคลื่น 2600 เมกะเฮิรตซ์ จาก กสทช.
ตามที่นายกรัฐมนตรีสมัยที่เป็นประธานคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เคยมีนโยบาย จนได้มาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีถึงปัจจุบัน ระบุว่าจะต้องไม่มีสัญญาที่รัฐเสียเปรียบรวมถึงมีนโยบายการปราบปรามทุจริตตลอดจนจะยึดประโยชน์ของชาติของประชาชนและหน่วยงานรัฐบาลเป็นที่ตั้ง โดย บมจ.อสมท อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้ให้นโยบายผ่านสื่อมวลชนชัดเจนว่า กรณีคลื่น 2600 เมกะเฮิรตซ์ และเงินชดเชยที่ บมจ.อสมท จะแบ่งให้กับเอกชนจะต้องพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ลงทุนและแผนธุรกิจ แต่ปรากฏว่าจากการประชุมคณะกรรมการ กสทช.ครั้งล่าสุดที่มีผู้บริหารระดับสูงของ บมจ.อสมทได้เข้าไปชี้แจง โดยมีการระบุว่าสัดส่วนเงินชดเชยดังกล่าวจะให้กับบริษัทคู่สัญญาครึ่งหนึ่งซึ่งเป็นวงเงินชดเชยมูลค่าหลายพันล้านบาทนั้น สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บมจ.อสมท จึงเห็นว่าหากกระแสข่าวดังกล่าวเป็นความจริงก็ถือว่าอาจขัดต่อนโยบายของนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีอย่างชัดเจน จึงขอให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว เนื่องจากการเสนอ ส่วนแบ่งครึ่งหนึ่งนั้น อาจเป็นการทำให้รัฐเสียประโยชน์ทางสหภาพแรงงานจึงขอให้นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้และเปิดเผยต่อสาธารณชนให้รับทราบ ทั้งนี้ สหภาพแรงงานมีจุดยืนในการรักษาผลประโยชน์ของ บมจ.อสมท ประเทศชาติ และพนักงาน จึงขอให้รีบดำเนินการตรวจสอบโดยด่วน
ด้านนายเทวัญกล่าวว่า สหภาพแรงงาน อสมท เคยยื่นหนังสือเรื่องเวนคืนคลื่นความถี่มาแล้ว ตนให้ทำจดหมายไปสอบถามผู้อำนวยการ อสมท แต่ยังไม่ได้รับคำตอบ ส่วนกรณีที่ยื่นหนังสือวันนี้ตามที่ระบุว่ามีผู้บริหาร อสมท ไปหารือ กสทช.นั้น เรื่องนี้บริหารไม่รักษาผลประโยชน์ของ อสมท จึงต้องรีบดำเนินการ ถือเป็นนโยบายของนายกรัฐมนตรีอยู่แล้วที่ต้องรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและยืนยันว่าจะต้องรีบดำเนินการ