“ประยุทธ์” ลั่นไม่ขัดตั้ง กมธ.สอบใช้งบ พ.ร.ก.เงินกู้ แนะอย่าให้ช้าจนคนรอหมดลมหายใจก่อน วอนทุกฝ่ายร่วมมือกันอย่าแบ่งฝ่ายค้าน-รัฐบาล
วันนี้ (31 พ.ค.) เมื่อเวลา 16.05 น. ที่อาคารรัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบ พ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับว่า การประชุมถือว่าเรียบร้อยดี แต่มีหลายอย่างที่จะนำไปพิจารณารายละเอียดเพิ่มเติมมากยิ่งขึ้น ในส่วนที่เป็นกังวลก็ได้ชี้แจงไปบ้างแล้วและรองนายกรัฐมนตรีก็ชี้แจงได้ดี วันนี้เราต้องปรับรูปแบบการฟัง การพูด และการอภิปรายบ้าง ไม่เช่นนั้นก็จะสับสนอลม่านประชาชนฟังแล้วไม่เข้าใจ และยิ่งทำให้การเดินหน้าไปได้ช้า สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องมองว่างบฯที่กู้มาแล้ว กู้มาด้วยเหตุผลความจำเป็นอะไร และมีมาตรการในการใช้อย่างไร ที่เหลือจากนี้คือการคัดกรองโครงการ และการจัดทำโครงการที่ผ่านการคัดกรองมาจากข้างล่างระดับหนึ่งแล้ว และนำเข้า กนจ. ถ้าใครไม่ไปก้าวล่วง เมื่อประชาชนเสนออะไรมาก็ต้องตรวจสอบว่ามีความเป็นไปได้อย่างไร และจะตรวจสอบจากงานที่ปรากฏและร้องทุกข์กล่าวโทษไป เหมือนการจัดซื้ออุปกรณ์ถ้าผิดกฎหมายก็ต้องผิดกฎหมาย ตนไปสั่งให้กฎหมายทำงานไม่ได้ เพราะกฎหมายต้องทำงานด้วยตัวมันเอง
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายกฯ ระบุว่า ไม่ขัดข้องข้อเสนอตั้งคณะกรรมการวิสามัญตรวจสอบการใช้เงินกู้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เป็นเรื่องการพิจารณาในระยะต่อไป จะมาถามอะไรตอนนี้ ตนก็บอกว่าไม่ขัดข้องหากพิจารณากันแล้วจากในงานของสภาฯ ถ้าสามารถตั้งได้ก็ตั้งได้ แต่ในพรรคก็ต้องร่วมกันหารือว่าจะตั้งหรือไม่ตั้งอย่างไร ไม่ได้ขัดข้องและไม่ได้คัดค้านอะไรทั้งสิ้น ถ้าทำให้ดีขึ้นและได้รับความไว้วางใจมากขึ้น แต่ต้องไม่ทำให้ชักช้าจนไม่ทันการณ์ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเกรงว่าจะทำให้เกิดความล่าช้าและจะไม่ตรงต่อความต้องการของประชาชน เพราะมีเงินแต่ออกไปทีหลัง ก็เหมือนเขาหมดลมไปแล้ว จึงต้องให้ตอนนี้
เมื่อถามถึงกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) จะตั้งคณะกรรมการติดตามตรวจสอบเรื่องนี้เช่นเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “เขาต้องทำอยู่แล้ว หน่วยงานต้องตั้งหลักของเขาอยู่แล้ว และเรื่องนี้เป็นวาระสำคัญที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ที่กู้เงินมาทำงานแบบนี้ แต่ก่อนเป็นการกู้ทางโน้นทางนี้ไปลงทุนอะไรต่างๆ เช่น สมัยที่เกิดต้มยำกุ้งก็คนละแบบ เสถียรภาพทางการเงินก็คนละอย่าง และประเทศไทยวันนี้สถานะการเงินเราเข้มแข็งมาก จึงคลายกังวลในเรื่องนี้ แต่ไม่แน่ใจว่าสถานการณ์จะยาวไปแค่ไหน และวันหน้าต้องหาเงินเพิ่มหรือเปล่ายังไม่รู้ อย่างน้อยเงินตรงนี้ก็ต่อลมหายใจให้ประชาชน ให้เดินหน้าต่อไปได้ ลูกจ้างพนักงานไม่ตกงาน ถ้าตกงานมากรัฐบาลจะดูแลเดือนละ 5,000 จะพอไหมแต่ทำให้เขากลับมาทำมาหากินได้เหมือนเดิมไม่ดีกว่าเหรอ สิ่งที่แตกต่างกันคือตรงนี้”
นายกฯ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ที่พูดกันในสภาฯ ตนรับได้หมด และไม่ได้โมโหอะไรเลย แต่การชี้แจงอาจเสียงดังไปบ้าง เพราะต้องการจะเน้น แต่ไม่ต้องการทะเลาะกับใครทั้งสิ้น เราทะเลาะกันมามากแล้ว ย้อนกลับไปกลับมาก็ไม่จบวันนี้ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลต้องช่วยกัน เดินไปข้างหน้าซึ่งเข้าใจว่าทุกคนหวังดีต่อประเทศชาติบ้านเมืองทั้งนั้น แต่วิธีการคิดยังไม่ตรงกันและอาจมีความรู้สึกภายในว่าคนละพรรคกันรัฐบาลกับฝ่ายค้าน หน้าที่ของฝ่ายค้านก็ต้องค้านแต่บางทีอาจร่วมมือกันก็ได้ ในการทำประโยชน์ ให้ประเทศชาติและประชาชน เป็นแนวใหม่แบบที่ทุกคนต้องการ ทั้งเศรษฐกิจใหม่และชีวิตวิถีใหม่ ต้องร่วมมือกันสู้ เหมือนกับการเลี้ยงลูกหลายคนก็มีความจำเป็นที่แตกต่างกัน ทั้งลูกคนเล็ก คนโต ก็มีความต้องการคนละอย่าง พ่อแม่ก็ต้องหาเงินคนละอย่างมาจุนเจือ ส่วนเงินที่เข้าไปถึงก่อนเพราะมีความพร้อมในการกู้และสร้างงานต่อได้ทันที ส่วนกลุ่มที่จะกลายเป็นหนี้เสียก็ต้องตั้งเงินไว้ก้อนหนึ่งให้เขาเข้าถึง เพราะส่วนนี้ไม่มีสินทรัพย์ค้ำประกัน จึงคล้ายกับแผนฟื้นฟูบริษัทที่ต้องมีการปรับปรุง