พรรคร่วมฝ่ายค้านแถลงแจงเสียงโหวต พ.ร.ก. 3 ฉบับไม่เท่ากัน เหตุเสรีรวมไทยของดออกเสียงทุกฉบับ เพราะยังอ้างเรื่องถวายสัตย์ แถมมีลา ใช้เอกสิทธิ์ ส.ส.ก้าวไกล ปูดอีกรอบมีทุ่มซื้อเสียงฝ่ายค้าน 80 ล้าน
วันนี้ (31 พ.ค.) เมื่อเวลา 16.15 น. นอ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน และ ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ร่วมแถลงชี้แจงหลังพรรคร่วมฝ่ายค้านลงมติโหวต พ.ร.ก.กู้เงินทั้ง 3 ฉบับ ที่มีคะแนนเสียง แตกต่างกันออกไป
นายสุทินกล่าวว่า เหตุผลในการลงมติ พ.ร.ก.ทั้ง 3 ฉบับ ของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้มีการหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านทุกพรรคจนถึงนาทีสุดท้ายก่อนการลงมติ โดยยึดหลักการว่าอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ไม่เสียหลักการ ไม่เสี่ยงต่อความเสียหายของประเทศชาติ พ.ร.ก.ฉบับที่ 1 เห็นว่าเป้าหมายของรัฐบาลจะช่วยประชาชนจริง เรารับได้ เพราะจะมีการนำไปเยียวยาให้ชาวบ้าน เสริมความแข็งแกร่งด้านสาธารณสุข รวมถึงการฟื้นฟู แต่มีข้อบกพร่องเรื่องระบบการตรวจสอบยังไม่ดีพอ การจะนำมาฟื้นฟูเศรษฐกิจคงไม่เป็นผล จึงงดออกเสียง และ พ.ร.ก.ฉบับที่ 2 ที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายจะช่วยเอสเอ็มอีที่เดือดร้อน เรามองว่าทิศทางมาถูก แต่วิธีการไม่ถูก ไม่ชอบมาพากล ไม่มีระบบการตรวจสอบที่ดีพอ ที่สุดกลไกลก็จะไปไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ จึงได้งดออกเสียง
ส่วน พ.ร.ก.ฉบับที่ 3 ที่ตั้งเป้าหมายจะช่วย ทั้งที่ข้อเท็จจริงไม่จำเป็นต้องเร่งรีบในการออก พ.ร.ก.เนื่องจากผู้ประกอบการรายใหญ่ ยังมีแนวทางในการช่วยเหลือวิธีอื่นและยังมีระยะเวลา ที่สำคัญฝ่ายค้านรับไม่ได้กับการให้ธนาคารแห่งประเทศไทยที่ต้องดำรงความเป็นกลางกลับมาเป็นผู้ดำเนินการเสียเองทั้งหมด ทำให้เสียหลักการและจะเกิดเป็นปัญหาในอนาคต โดยเฉพาะจะเป็นการเอาอย่างในครั้งนี้ การขาดทุน 4.5 หมื่นล้านบาทก็ไม่เหมาะสม เพราะคนที่เป็นเจ้าของกิจการเหล่านี้ ไม่เดือดร้อนจริง เขายังสามารถหาวิธีการแก้ไขด้านอื่นได้อีก เช่น เอาเงินไปซื้อพันธบัตรรัฐบาล แต่รัฐกลับมาซื้อหนี้เอกชนเสียเอง ที่สุดจะทำให้เกิดปัญหาด้านหลักการในอนาคต เราจึงโหวตไม่เห็นด้วยและขอให้บันทึกไว้เป็นหลักฐาน ส่วนที่เสียงลงคะแนนฝ่ายค้านไม่เท่ากันในการโหวต พ.ร.ก.แต่ละฉบับนั้น พรรคเสรีรวมไทยได้แจ้งแต่ต้นแล้วว่าไม่รับหลักการ กรณี พล.อ.ประยุทธ์ถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วน จึงได้งดออกเสียงทั้ง 3 ฉบับ
เมื่อถามว่าเสียงที่ออกมา ในการโหวต พ.ร.ก.3 ฉบับ ไม่เท่ากัน น.อ.อนุดิษฐ์ชี้แจงเพิ่มเติมว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านมีจำนวนเสียง 210 เสียง ในวันนี้พรรคเพื่อไทย ขอลาป่วย 2 คนและได้แจ้งลาประชุมไว้แล้ว พรรคก้าวไกล หัวหน้าพรรค เข้ารับการผ่าตัดก็ได้ลาป่วย ยืนยันว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านได้โหวตไปในทางเดียวกัน 100 เปอร์เซ็นต์ แต่เสียงที่ยังขาดไม่เท่ากันบ้าง ก็เป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส.ฝ่ายค้านบางคน ซึ่งต้องมีการตรวจสอบกันอีกครั้ง เบื้องต้นยืนยันว่าเราโหวตไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งนี้ช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ชี้แจงก็ระบุชัดเจนแล้วว่าเห็นด้วยกับหลักการที่จะต้องมีการตรวจสอบการใช้เงินกู้อย่างรัดกุม โปร่งใส จึงหวังว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะให้ความร่วมมือ และให้โอกาสตัวแทนของประชาชนคือ ส.ส. โดยการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญตรวจสอบการใช้งบประมาณเงินกู้ในครั้งนี้ด้วย
ด้านนายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ระบุในการอภิปรายว่ามีการให้เงิน 80 ล้านบาท กับส.ส.ฝ่ายค้านแลกกับการโหวตผ่าน พ.ร.ก.นี้ ว่าในช่วงเช้าได้ยินหลายคนพูดถึงประเด็นนี้ ก็มีความห่วงใย เพราะเงิน 4 แสนล้านบาทเป็นจำนวนมหาศาลที่ต้องใช้ตอบโจทย์ช่วยเหลือประชาชน ถ้าถูกจัดสรรมาในลักษณะดังกล่าวจริง ประชาชนจะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย จึงได้นำมาอภิปราย เพราะมีสมาชิกหลายคนมาพูดคุยกันเช่นนั้น เลยเป็นที่มาของการเรียกร้องให้ รัฐบาลตั้งกรรมาธิการวิสามัญตรวจสอบซึ่งก็มีความเป็นไปได้ เพราะมีพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรค เห็นด้วยกับหลักการของเรา