โฆษกรัฐบาล เผย ครม.รับทราบโครงการนมโรงเรียน รองรับช่วงโควิด-19 เน้นนักเรียนได้รับต่อเนื่องตามปฏิทินเปิดภาคเรียน จนกว่าสถานการณ์เข้าสู่ปกติ
วันนี้ (19 พ.ค.) ศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า คณะรัฐมนตรีมีวาระสำคัญของรัฐบาลรับทราบแนวทางการดำเนินโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียนและการสนับสนุนอาหารกลางวันในโรงเรียนรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โรคโควิด-19) โครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน และโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียน เพื่อให้มั่นใจได้ว่านักเรียนกลุ่มเป้าหมายทุกคนจะได้รับสิทธิตามโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียนและโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนที่มีคุณภาพ ถูกหลักอนามัยอย่างต่อเนื่องและครบถ้วนสอดคล้องกับปฏิทินการเปิดภาคเรียน
จากประกาศกระทรวงศึกษาธิการ ที่ให้โรงเรียนทั้งในและนอกระบบซึ่งอยู่ในสังกัดและในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการเปิดเรียนในวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 กระทรวงศึกษาร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กำหนดแนวทางที่เหมาะสม เตรียมความพร้อมโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ให้นักเรียนได้ดื่มนมจำนวน 260 วันต่อปีการศึกษา โดยภาคเรียนที่ 1/2563 กรณีเปิดเรียนวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ให้นักเรียนบริโภคนมชนิด ยู เอช ที ตั้งแต่ 18 พฤษภาคม - 30 มิถุนายน 2563 กรณีเปิดภาคเรียนหลังวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 หรือจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์ สลับวันมาเรียน ให้นักเรียนบริโภคนมชนิดยูเอชที ตามโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียนจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ
สำหรับโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนนั้น ให้นักเรียนตั้งแต่เด็กเล็ก และชั้นอนุบาลถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ได้รับประทานอาหารกลางวัน จำนวน 200 วันต่อปีการศึกษา โดยอุดหนุนเงินอัตรา 20 บาทต่อคนต่อวัน สำหรับกรณีการจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์ หรือกรณีการสลับวันมาเรียน ให้จ่ายงบประมาณค่าอาหารกลางวันนักเรียนให้แก่ผู้ปกครองนักเรียนเพื่อนำไปจัดหาอาหารกลางวันให้นักเรียนรับประทานที่บ้าน รวมถึงอาหารมื้ออื่นๆ ที่ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐเคยจัดให้ ตั้งแต่วันเปิดภาคเรียนวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ กรณีมีการจัดการเรียนการสอนชดเชยนั้น ให้โรงเรียนดำเนินการจัดอาหารกลางวันให้แก่นักเรียนที่โรงเรียนได้เช่นเดียวกับวันจัดการเรียนการสอนตามปกติ