เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เผยว่า จนท.ที่มีอาการส่อติดเชื้อโควิด-19 ผลตรวจออกมาเป็นลบ สั่งให้กักตัวเองในบ้านพักเป็นเวลา 14 วันเพื่อสังเกตอาการ ด้าน สนง.จะเปิดทำการตามปกติวันที่ 18 พ.ค.นี้
วันนี้ (15 พ.ค.) นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า ตามที่เจ้าหน้าที่ของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินรายหนึ่งมีอาการเจ็บป่วยคล้ายคลึงกับอาการของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลจุฬาภรณ์แล้ว ขณะนี้ได้รับแจ้งผลจากแพทย์ว่าไม่พบการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ให้กักตัวเองในบ้านพักเป็นเวลา 14 วันเพื่อสังเกตอาการต่อไป ทั้งนี้เมื่อวันที่ 14-15 พ.ค.ที่ผ่านมา สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้เร่งดำเนินการมาตรการเชิงป้องกันโดยปิดพื้นที่ทำความสะอาดพร้อมฉีดพ่นกำจัดเชื้อโรคในบริเวณสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ทั้งชั้น 5 และ ชั้น 9 อาคารบี ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ เพื่อความสะอาดปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และประชาชนที่จะเดินทางมาติดต่อรับบริการจากสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และจะเปิดทำการตามปกติในวันจันทร์ที่ 18 พฤษภาคม 2563 อย่างไรก็ตาม เพื่อความสะดวก รวดเร็ว และลดความเสี่ยงการติดเชื้อระหว่างเดินทาง ประชาชนสามารถร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดินผ่านทางสายด่วน 1676 (โทร.ฟรีทั่วประเทศ) หรือเว็บไซต์ www.ombudsman.go.th หรือผู้ที่ใช้สมาร์ทโฟนก็สามารถร้องเรียนผ่านแอปพลิเคชัน “ผู้ตรวจการแผ่นดิน” ได้อีกด้วย
นายรักษเกชากล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินดำเนินมาตรการดูแลป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัส Covid-19 มิให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของบุคลากร การบริหารงานของสำนักงานฯ พร้อมกับรณรงค์เผยแพร่ให้ความรู้แนวทางป้องกันอย่างรอบด้าน รวมทั้งตอบรับนโยบายการปฏิบัติงานยังที่พักอาศัย (Work from Home) ของรัฐบาลที่ต้องการลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายของเชื้อ โดยแนวทางของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน คือ เจ้าหน้าที่ทุกคนจะสลับผลัดเวรวันเว้นวันปฏิบัติงานระหว่างที่พักอาศัยและสำนักงาน จนถึงวันที่ 20 พฤษภาคม 2563 ซึ่งได้กำชับไปยังผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ทุกคนแล้วว่าระหว่างการปฏิบัติงานจากที่พักอาศัย หากพนักงานและลูกจ้างที่ปฏิบัติงานจากที่พักอาศัยมีไข้ อุณหภูมิสูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป มีอาการไอแห้งๆ หรือไอมีเสมหะเกิน 1 สัปดาห์ และมีอาการหายใจลำบาก เหนื่อยหอบ หรือมีภาวะเสี่ยงต่อการติดเชื้อดังกล่าว ให้รีบปรึกษาแพทย์และแจ้งผู้บังคับบัญชาเพื่อรายงานต่อผู้บริหารสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินให้ทราบโดยเร็วต่อไป