บอร์ดวินิจฉัยจัดซื้อจัดจ้างฯ ก.คลัง ชี้ “กรุงเทพธนาคม” เป็นคู่สัญญากับ กทม. มิใช่องค์กรของรัฐ-รัฐวิสาหกิจ ให้ได้อานิสงส์ “ลดภาระค่าธรรมเนียม” ไม่ต้องวางหลักประกันสัญญา-หลักประกันการรับเงินล่วงหน้า โครงการของ กทม. เป็นการเฉพาะราย เหตุ “ผู้ว่าฯ กทม.” มีอำนาจแต่งตั้งบอร์ด ไม่มีความเสี่ยงทำ กทม. เสียหาย
วันนี้ (5 พ.ค.) มีรายงานจากศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ (คณะกรรมการวินิจฉัย) กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง มีหนังสือด่วนที่สุดแจ้ง กทม. อนุมัติยกเว้นการปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560
กรณี บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด เป็นคู่สัญญากับ กทม. โดยไม่ต้องวางหลักประกันสัญญา และหลักประกันการรับเงินล่วงหน้าเป็นการเฉพาะราย
จากหลักการดังกล่าวข้างต้น เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า กทม. ได้จัดตั้ง บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด โดย กทม. ถือหุ้นเป็นเงินจำนวน 49,994,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 99.98 ของทุนจดทะเบียน ซึ่งบริษัทมิใช่รัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ มิใช่องค์กรของรัฐบาล เนื่องจากมิได้จัดตั้งตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการจัดตั้งองค์การของรัฐบาล พ.ศ. 2496 ประกอบกับบริษัท เป็นนิติบุคคลแยกต่างหากจาก กทม.
“ซึ่งมีสิทธิ หน้าที่ และความรับผิดตามที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บัญญัติไว้ กรณีที่ กทม. มีความประสงค์จะดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างและทำสัญญากับบริษัท โดยไม่ต้องวางหลักประกันสัญญาและหลักประกันการรับเงินล่วงหน้า กรณีนี้จึงเป็นการไม่ปฏิบัติตามระเบียบฯ”
แต่เนื่องจาก กทม. ชี้แจงว่า การที่บริษัทเข้าเป็นคู่สัญญากับ กทม. ไม่มีความเสี่ยงที่จะทำให้ กทม. ได้รับความเสียหาย ประกอบกับการบริหารกิจการของบริษัท ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นผู้มีอำนาจแต่งตั้งกรรมการบริษัท ผ่านที่ประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งการขอยกเว้นไม่ต้องวางหลักประกันเป็นไปเพื่อการลดภาระค่าธรรมเนียม ที่ไม่มีความจำเป็นในการจัดหาหลักประกัน รวมถึงเป็นการลดภาระทางด้านงบประมาณของบริษัทที่อยู่ในกำกับ ดูแลของ กทม. ด้วย
ดังนั้น เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการของ กทม. จึงอนุมัติยกเว้นการวางหลักประกันสัญญา และหลักประกันการรับเงินล่วงหน้า ตามระเบียบฯ ข้อ 91 วรรคสอง ข้อ 167 และข้อ 168 ในกรณีที่ กทม. ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างกับบริษัทได้เป็นกรณีเฉพาะราย