“วัชระ เพชรทอง” อดีต ส.ส.ปชป.เตรียมยื่นหนังสือถึงนายกฯ สั่ง กทม.ให้หยุดขับไล่หาบเร่แผงลอยที่ดำเนินมาตั้งยุค คสช. ชี้ควรหาทางช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนจากเชื้อโควิด-19 มากกว่า
วันนี้ (4 พ.ค. 63) จากกรณีของนางปรานี ลีฮวด อายุ 62 ปี ผู้ค้าหาบเร่แผงลอยที่ตลาดลาว เขตคลองเตย กทม. นั่งยกมือไหว้นายสุชัย อมรดารารัตน์ ผู้อำนวยการเขตคลองเตย อยู่กลางถนนในขณะที่นำกำลังเจ้าหน้าที่เทศกิจพร้อมรถยกแท่งแบริเออร์พลาสติก ตู้เชื่อมแก๊ส มาตัดหลังคาไล่รื้อหาบเร่แผงลอยที่ตลาดลาว เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 3 พ.ค. 63 ที่ผ่านมา ท่ามกลางความเดือดร้อนของประชาชนเนื่องจากโรคโควิด-19 ระบาด นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ เห็นว่าแทนที่ทางกรุงเทพมหานครจะต้องช่วยเหลือประชาชนทุกกลุ่มสาขาอาชีพในขณะที่โรคโควิด-19 ระบาด แต่กลับยังเดินหน้าขับไล่พ่อค้าแม่ค้าซึ่งเป็นผู้เสียภาษี ได้ทำการค้าขายในพื้นที่ตามที่ กทม.ผ่อนผันอย่างถูกกฎหมาย และไม่ได้กีดขวางทางเท้าหรือการจราจร ดังนั้น รัฐจึงต้องหยุดนโยบายเหล่านี้ได้แล้ว ขออย่าเอาใจเจ้าสัวนายทุนใหญ่จนเกินไป ซึ่ง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการ กทม. เคยบอกกับตนว่านโยบายนี้เริ่มมาจาก คสช. เมื่อ คสช.หมดสภาพไปก็ควรเลิกได้แล้ว เพื่อให้คนจนอยู่ได้ ผู้ค้าหาบเร่แผงลอยถือเป็นซุปเปอร์มาเก็ตของคนจน เป็นแหล่งกระจายสินค้าทางการเกษตรตามวิถีไทย และเป็นอัตตลักษณ์อันมีเสน่ห์ของกรุงเทพฯ ที่ทั่วโลกรู้จักกันดี
นายวัชระกล่าวว่า ในวันอังคารที่ 5 พฤษภาคมนี้จะไปยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล เวลา 13.00 น. เพื่อให้นายกรัฐมนตรีรู้ว่าภายใต้นโยบายของ คสช.ที่กวาดล้างหาบเร่แผงลอยนั้น ได้สร้างความร่ำรวยให้เจ้าสัว แต่คนจนบ้านแตกสาแหรกขาด ฆ่าตัวตายไปไม่ใช่น้อย เหตุการณ์ที่คลองเตยต้องระวังซ้ำรอยกับนางสาวปรายฝน อ่ำสาริกา ที่ฆ่าตัวตายไปก่อนหน้านี้ด้วย และต้องถาม พล.อ.ประยุทธ์ว่า ในภาวะบ้านเมืองเดือดร้อนแสนสาหัสจากโรคโควิด-19 รัฐบาลจ่ายเงินเยียวยา 5,000 บาท ไม่ทั่วถึง คนหาเช้ากินค่ำต้องมานั่งกราบเจ้าหน้าที่ของรัฐกลางถนนเพื่อขอที่ค้าขายเพื่อเลี้ยงตัวเองอยู่รอด คนไทยต้องมานั่งกราบคนไทยกลางถนน นายกรัฐมนตรีไม่รู้สึกอะไรบ้างหรือไม่ทบทวนนโยบายไล่คนจนของท่านบ้างหรือ