xs
xsm
sm
md
lg

แกนนำ-ส.ส.พปชร. ส่ายหน้าก๊ก “วิรัช-สุชาติ-บิ๊กอ้น” ปั่นกระแส แซะ “อุตตม” ขุดปมอดีตคาใจ “สันติ” ก่อนที่ทุกอย่างสงบจบที่ “ลุงตู่” ** “พ.ต.ท.กรวัชร์” ขึ้นนั่งเบอร์หนึ่งดีเอสไอ การกลับมาครั้งนี้ คงทำให้หลายคนออกอาการหนาวๆ ร้อนๆ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว

**แกนนำ-ส.ส. พปชร. ส่ายหน้าก๊ก วิรัช-สุชาติ-บิ๊กอ้น ปั่นกระแส แซะ “อุตตม” ขุดปมอดีตคาใจ สันติจบรามฯ ขยี้กลับ ก่อนที่ ทุกอย่างสงบจบที่ ลุงตู่ เหมือนเดิม

สำหรับกระแสปั่นป่วนภายในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จากที่มี “ก๊วน-ก๊ก ส.ส.” จำนวนหนึ่งเคลื่อนไหวกดดันให้หัวหน้าพรรค “อุตตม สาวนายน” และกรรมการบริหารพรรคลาออกเพื่อเปิดทางให้มีการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ที่จะผลักดันไปสู่การปรับคณะรัฐมนตรีในโควตาพรรค โดยได้วางตัวบุคคลในก๊วนตัวเองให้นั่งเก้าอี้ รมว.แทนคนปัจจุบัน ในหลายตำแหน่ง

จากที่คิดกันว่า จะปฏิวัติกันเงียบๆ เลยกลายเป็นที่โจษจันกันในพรรค จากนั้นก็เลยเกิดกระแสตีกลับขึ้นมา โดยมีรายงานว่า ส.ส.กลุ่มต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องได้แสดงความกังวล และไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวดังกล่าว

เหตุผลเพราะว่า จะมาก่อกวนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองทำไมตอนนี้ ช่วงนี้ประชาชนกำลังเผชิญกับปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อยู่ ควรทุ่มเทเวลา มีสมาธิไปช่วยกันดูแลประชาชนที่เดือดร้อนก่อนดีมั้ย

ว่ากันว่า ส.ส.พปชร. ส่วนใหญ่ทราบกันดีว่า กลุ่ม “สุชาติ ชมกลิ่น” ส.ส.ชลบุรี และประธาน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ โดยมี “วิรัช รัตนเศรษฐ” ส.ส.บัญชีรายชื่อ และประธานคณะกรรมการประสานงาน (วิป) พรรคร่วมรัฐบาล รวมทั้ง “พล.อ.กนิษฐ์ ชาญปรีชญา” หรือ “บิ๊กอ้น” สมาชิกวุฒิสภา ที่มีบทบาทในพรรคพลังประชารัฐมาโดยตลอดอยู่เบื้องหลัง

เพราะกระแสข่าวปรับเปลี่ยนหัวหน้าพรรค ออกมาสอดรับกับไลน์กลุ่ม ส.ส.ของสุชาติ ที่หลุดออกมา ซึ่งบทสนทนาตำหนิการทำหน้าที่หัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค อย่างรุนแรง

วิเคราะห์กันไปวิเคราะห์กันมาแล้วก็มองได้ว่า “กลุ่มวิรัชและสุชาติ” ต้องการขย่ม “กลุ่มสี่กุมาร” ของหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค เพื่อที่กลุ่มตัวเอง จะมีโอกาสนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีแทน หากมีการปรับคณะรัฐมนตรี นั่นเอง

ขณะที่ แกนนำของพรรคกลุ่มต่างๆ ก็ “ไม่รับมุก” ด้วยเหตุผลไม่อยู่ในช่วงเวลาที่เหมาะสม ซึ่งหากมีการปรับเปลี่ยนช่วงนี้ หรือเล่นการเมืองกันแบบเดิม ก็จะส่งผลต่อคะแนนนิยมของรัฐบาลด้วย

นอกจากนี้ ตามโผ ครม.ดรีมทีมที่กลุ่มนี้นำเสนอมา ชื่อชั้นของแต่ละคนยังมีข้อคลางแคลงใจสงสัยกันอยู่ว่าจะเหมาะสมกันหรือไม่ ทั้งความรู้ ความสามารถ ตลอดจนไล่ให้ไปเคลียร์เรื่องในอดีตด้วย

สุชาติ ชมกลิ่น
โดยหนึ่งในดรีมทีม “สันติ พร้อมพัฒน์” รมช.คลัง ที่จะขยับเป็นเลขาธิการพรรค พร้อมกับจะถูกดันขึ้นเป็น รมว.คลัง แทน “อุตตม” นั้น มีปมเรื่องที่เคยถูกอภิปรายในสภาฯ เมื่อหลายปีก่อนสมัยยังนั่ง รมว.คมนาคม

ว่ากันว่า ตอนนั้น “สันติ” ถูกตั้งข้อสงสัยประเด็นเรื่องการว่าจ้างคนเข้าสอบแทนจนถูกลบชื่อออกจาก ม.รามคำแหง ในปี 2542 แต่กลับจบปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยแห่งนี้ในปี 2545 และจบปริญญาโทอีกในปี 2547 ทั้งที่ตามระเบียบแล้วคนที่ถูกลบชื่อออกจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง จะไม่มีสิทธิ์กลับเข้ามาเรียนใหม่ได้

ต่อมาเป็น “รังสรรค์ แสงสุข” อธิการบดี ม.รามคำแหง ในช่วงนั้นเป็นผู้ออกมารับรอง โดยระบุว่า มีความสับสนของชื่อที่คล้ายกันกับ “สันติ” เพราะคนที่เป็นคดีจ้างคนสอบแทนนั้นแม้จริงชื่อ “สานติ พรมพัฒน์”

เรียกว่า ชื่อ และนามสกุล ใกล้เคียงกันมาก จึงเป็นเรื่องที่ “สันติ” พ้นมลทิน และได้รับกลับเข้าเรียนใหม่จนจบ ป.ตรี-โท โดยอดีตอธิการบดี ภายหลังได้รางวัลเป็น “บอร์ดการบินไทย” ตอบแทน

เรื่องนี้ค้างคาใจกันมานาน แม้จะผ่านมา 10 กว่าปีแล้วก็ตาม

อย่างไรก็ดี วันนี้ดรีมทีมก็คงยังต้องเป็นดรีมทีมต่อไป ฝันหวานๆ น่าเป็นฝันค้าง อย่างไม่ต้องสงสัย !!

นั่นเพราะว่า ที่ทำเนียบรัฐบาล “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุม ครม. อย่างชัดๆ ว่า การเมืองในช่วงนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ช่วงนี้เป็นเรื่องการทำงาน ที่จะดูแลฟื้นฟูและจะคืนความสุขอะไรประชาชนได้บ้างตามระยะเวลาที่ได้กำหนดไว้

พอนายกฯพูดชัด เช็กกระแสในพรรค พปชร. ฟังว่า “ก๊วน-ก๊ก” ก็วงแตก ช้อยเก็บฉากกันไป

นี่เป็นอันว่า “ทุกอย่างสงบจบที่ลุงตู่” นั้นยังมีมนต์ขลัง

สันติ พร้อมพัฒน์ - วิรัช รัตนเศรษฐ
** พ.ต.ท.กรวัชร์ ขึ้นนั่งเบอร์หนึ่งดีเอสไอ การกลับมาครั้งนี้ คงทำให้หลายคนออกอาการหนาวๆ ร้อนๆ

หลังจาก “พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง” อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มีปัญหาเรื่องสุขภาพ ต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล ตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา และได้ยื่นหนังสือลาออกจากราชการ เมื่อต้นเดือนมีนาคม ซึ่งก็ได้รับการอนุมัติจากกระทรวงยุติธรรมต้นสังกัด โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน ที่ผ่านมา ...ทำให้ช่วงเวลาที่ผ่านมานั้น “ดีเอสไอ” เสมือนขาดผู้นำตัวจริง ทั้งๆ ที่เป็นหน่วยงานสำคัญ ในการทำคดีพิเศษ

ล่าสุด ที่ประชุม ครม.มีมติแต่งตั้ง “พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร” ซึ่งเปรียบเสมือน “ลูกหม้อ” คนหนึ่งของดีเอสไอ ขึ้นเป็น อธิบดีดีเอสไอ

“พ.ต.ท.กรวัชร์” เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 36 รุ่นเดียวกับ “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เข้ารับการบรรจุเป็นข้าราชการตำรวจ ตั้งแต่ ปี 2522 และมีความก้าวหน้าในหน้าที่การงานมาเป็นลำดับ เคยเป็นสารวัตรสอบสวน สภ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ทำงานด้านสืบสวนสอบสวน กระทั่งปี 2545 ขึ้นเป็น รอง ผกก.4 กองบังคับการกองปราบปราม ... มีผลงานการทำคดีสำคัญๆ โดยเฉพาะคดีที่เกี่ยวข้องกับ “ผู้มีอิทธิพล” เช่น คลี่คลายคดีจ้างวานฆ่า “กำนันยูร” ที่ จ.ชลบุรี และจับกุม “กำนันเป๊าะ” สมชาย คุณปลื้ม ในฐานะผู้จ้างวาน ... รื้อฟื้นคดีการฆาตกรรม นายห้างทอง ธรรมะวัฒนะ ... ร่วมคลี่คลายคดีการฆาตกรรมแกนนำต่อต้านการสร้างบ่อขยะราชาเทวะ รวมทั้งคดีที่เกี่ยวข้องกับการเงิน อย่างคดีทุจริตของธนาคารกรุงเทพฯพาณิชย์การ จำกัด (BBC) เป็นต้น

ต่อมาปี 2547 ได้ย้ายมาสังกัด กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในตำแหน่ง พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 7 สำนักคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ ... จากนั้นปี 2555 ขึ้นเป็นผู้บัญชาการสำนักปฏิบัติการคดีพิเศษ และ ปี 2560 ขึ้นเป็น รองอธิบดีดีเอสไอ

พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร
ผลงานการทำคดีสำคัญๆ ของ “พ.ต.ท.กรวัชร์” ในช่วงมานั่งที่ ดีเอสไอ ต้องเข้าไปจัดการกับกลุ่มนายทุน ผู้มีอิทธิพล ทั้งที่เป็นข้าราชการ นักการเมืองท้องถิ่น กระทั่งนักการเมืองระดับชาติ อาทิ คดีนายทุน ผู้มีอิทธิพล บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ อ.กะปง จ.พังงา... คดีบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ อ.เกาะยาว จ.พังงา ... จัดการกลุ่มมาเฟียต่างชาติกรรโชกทรัพย์นักท่องเที่ยว อ.เกาะสมุย... คดีนายทุนต่างชาติประกอบธุรกิจค้าที่ดินใน อ.เกาะสมุย... คลี่คลาย กรณีการฆาตกรรมภรรยาอัยการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ... คดีกลุ่มผู้มีอิทธิพล บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองทุ่งมะพร้าว อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา สามารถติดตามทรัพย์และที่ดินคืนให้รัฐสำเร็จ และยังขยายผลดำเนินคดีกับนักการเมืองท้องถิ่น ... ทลายขบวนการรถจดประกอบรถหรู ราคาแพง...

ที่เป็นข่าวฮือฮา ก็คือคดีที่ “พ.ต.ท.กรวัชร์” เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน กรณีการหายตัวไปของ นายพอละจี รักจงเจริญ หรือ “บิลลี่” นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน แกนนำชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย จ.เพชรบุรี โดยมี “ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และลูกน้อง ตกเป็นผู้ต้องหา

และว่ากันว่า หลังจาก “ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” ตกเป็นผู้ต้องหา ก็ได้เข้าพึ่งบารมี “นักการเมืองใหญ่” จนทำให้ “พ.ต.ท.กรวัชร์” ต้องถูกย้ายจาก รองอธิบดีดีเอสไอ ไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม

กระทั่งในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ที่ “พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง” มีปัญหาสุขภาพ ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รมว.ยุติธรรม จึงได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้งให้ “พ.ต.ท.กรวัชร์” ที่เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม ไปรักษาราชการในตำแหน่งอธิบดี ดีเอสไอ เมื่อช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

ถึงวันนี้ “พ.ต.ท.กรวัชร์” ก็ได้ขึ้นเป็น “อธิบดีดีเอสไอ”

ด้วยความที่เป็น “คนตรง” มีความรู้ความสามารถ และประสบการณ์การทำงานคลี่คลายคดีสำคัญๆ ที่ผ่านมา ทั้งคดีที่เกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพล นักการเมือง คดีที่เกี่ยวข้องกับด้านเทคโนโลยี หรือคดีที่เกี่ยวข้องกับการเงิน อย่างคดีแชร์ลูกโซ่ คดีปั่นหุ้น ... รวมทั้งล่าสุดก็ว่ากันว่า “พ.ต.ท.กรวัชร์” เป็นผู้มีส่วนสำคัญในการยืนยันความเห็นของดีเอสไอ ต่ออัยการ ให้อุทธรณ์คดีฟอกเงินกรุงไทย ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พิพากษายกฟ้อง “โอ๊ค” พานทองแท้ ชินวัตร


การกลับมานั่งเป็น “เบอร์หนึ่งของดีเอสไอ” ครั้งนี้ คงทำให้ใครหลายคนต้องหนาวๆ ร้อนๆ กันบ้าง !!



กำลังโหลดความคิดเห็น